ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เหิมหนัก ! แก๊งต่างชาติหลอกเช่าลูกหลานจากผู้ปกครอง ในราคาเดือนละ 5 พันบาท ย่องเข้าทางด่านธรรมชาติก่อนโผล่บังคับเร่ขายของที่หาดป่าตอง กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นทลายแก๊งต่างชาติค้ามนุษย์ กว่า 10 คน
วันนี้ ( 23 ก.พ.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ด่านตรวจค้นเข้าเมืองภูเก็ต ร่วมแถลงผลการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมแก๊งค่ามนุษย์ชาวต่างชาติ บังคับเด็กชาวต่างชาติเร่ขายของบริเวณหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายปราบปราม จับกุมกลุ่มเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์บังคับการใช้แรงงานเด็กแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและครอบครัว(ศพดส.ตร) คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต(TICAC) , คณะทำงานต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (TATIP) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พัฒนาสังคมจังหวัดภูเก็ต บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.)กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปคม. ได้รับการร้องเรียนจากเด็กชาวต่างชาติที่ถูกบังคับให้มาขายของที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับตำรวจภูธรสภ.ป่าตอง สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย และร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้น ทลายเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติเข้ามาหากินในประเทศไทย โดยรวมกลุ่มเช่าเด็กจากพ่อแม่แล้วนำมาบังคับใช้แรงงานขายของบริเวณหาดป่าตองให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากขายได้เงินไม่ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ ก็จะทำร้ายร่างกายเด็กบางรายทนไม่ไหวหลบหนีกลับประเทศ
โดยในแต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้าคอยดูแลเด็กในสังกัดตนเอง เด็กบางรายถูกขายสิทธิให้ไปอยู่กับกลุ่มอื่นวนเวียนเรื่อยไป ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมกลุ่มดังกล่าว หลังจากมีการลงพื้นที่สืบสวนพบว่า มีการนำเด็กสัญชาติกัมพูชาและเวียดนามมาเดินเร่ขายแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง
โดยกลุ่มต่างชาติทำการเช่าเด็กจากผู้ปกครองให้มาทำงาน โดยอ้างว่าเป็นงานสบาย ได้เงินเดือนละ 5,000 บาท จากนั้น พาเด็กเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ตพักอาศัยอยู่บ้านเช่า และบังคับให้เด็กขายสินค้าประเภทแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต แต่เมื่อมาถึงเด็กต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด บางรายทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน โดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด มีเพียงได้รับอาหารและที่พักอาศัย หากเด็กขายสินค้าได้ตามกำหนดประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ก็จะถูกตีด้วยไม้แขวนเสื้อบ้าง ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบ้าง และถูกบังคับให้ขายสินค้าจนถึงจำนวนที่กำหนดให้
เด็กบางรายถูกนำไปให้ทำการเช่าสิทธิต่อกับกลุ่มอื่นวนเวียนไป เด็กบางรายถูกทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหวหลบหนีออกจากบ้านพักเดินทางกลับประเทศเกิดบ้าง หลบหนีไปทำงานที่จังหวัดอื่นบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จึงทำการติดตามเด็กที่เคยทำงานอยู่กับกลุ่มดังกล่าว จนในที่สุดได้พบเด็กที่เคยตกเป็นผู้ถูกกระทำ จึงร่วมทำการสอบปากคำกับสหวิชาชีพและทำการคัดแยกผู้เสียหาย ปรากฏว่า เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงาน จึงได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดและหมายค้นเพื่อค้นหาพยานหลักฐานและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์
ซึ่งจากพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติบังคับใช้แรงงานเด็ก โดยได้นำหมายค้นทำการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 4 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยศิลาอุทิศ ต.กะทู้ อ.ป่าตอง จว.ภูเก็ต ทำการจับกุมนาย งอ ซุน หรือ งอง ซัน หรือ NGO SUN อายุ 33 ปี และ น.ส.สุพัตรา เจริญสุข อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันไว้ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี,ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด”พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง
จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 23 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 8 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง จุดที่ 3 บ้านเลขที่ 2/12 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ..ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง และจุดที่ 4 บ้านเลขที่16/16 ซอยนาใน 2 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเด็กมาได้จำนวน 17 คน จึงได้นำตัวไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นบุตรของผู้ใด และคัดแยกว่าผู้ใดเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามหมายจับได้ดำเนินการซักถามขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะถูกบังคับใช้แรงงานนอกจากนี้ ยังพบบุคคลต่างด้าวที่น่าจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแก๊งค้ามนุษย์แก๊งนี้เป็นแก๊งใหญ่ที่มีชาวต่างชาติร่วมมือกับคนไทยเข้ามาทำเป็นขบวนการ ส่วนเด็กที่มาทำงานนั้นพบว่ามีทั้งที่สมัครใจ และถูกบังคับมา แต่ตามกฎหมายแล้วจะต้องมีการดำเนินคดิอย่าง แน่นอน และแก๊งนี้นับเป็นการจับกุมเครือข่ายใหญ่ที่มีถึง 4 เครือข่ายที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ โดยนับจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์จะร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และบ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการช่วยเหลือคัดแยกเด็กที่ตรวจพบ เพื่อฟื้นฟูเยียวยาทางจิตใจ และทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และที่สำคัญแก๊งค้ามนุษย์จะต้องหมดไปจากประเทศไทย
วันนี้ ( 23 ก.พ.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ด่านตรวจค้นเข้าเมืองภูเก็ต ร่วมแถลงผลการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมแก๊งค่ามนุษย์ชาวต่างชาติ บังคับเด็กชาวต่างชาติเร่ขายของบริเวณหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายปราบปราม จับกุมกลุ่มเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์บังคับการใช้แรงงานเด็กแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและครอบครัว(ศพดส.ตร) คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต(TICAC) , คณะทำงานต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (TATIP) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พัฒนาสังคมจังหวัดภูเก็ต บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.)กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปคม. ได้รับการร้องเรียนจากเด็กชาวต่างชาติที่ถูกบังคับให้มาขายของที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับตำรวจภูธรสภ.ป่าตอง สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย และร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้น ทลายเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติเข้ามาหากินในประเทศไทย โดยรวมกลุ่มเช่าเด็กจากพ่อแม่แล้วนำมาบังคับใช้แรงงานขายของบริเวณหาดป่าตองให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากขายได้เงินไม่ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ ก็จะทำร้ายร่างกายเด็กบางรายทนไม่ไหวหลบหนีกลับประเทศ
โดยในแต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้าคอยดูแลเด็กในสังกัดตนเอง เด็กบางรายถูกขายสิทธิให้ไปอยู่กับกลุ่มอื่นวนเวียนเรื่อยไป ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมกลุ่มดังกล่าว หลังจากมีการลงพื้นที่สืบสวนพบว่า มีการนำเด็กสัญชาติกัมพูชาและเวียดนามมาเดินเร่ขายแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง
โดยกลุ่มต่างชาติทำการเช่าเด็กจากผู้ปกครองให้มาทำงาน โดยอ้างว่าเป็นงานสบาย ได้เงินเดือนละ 5,000 บาท จากนั้น พาเด็กเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ตพักอาศัยอยู่บ้านเช่า และบังคับให้เด็กขายสินค้าประเภทแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต แต่เมื่อมาถึงเด็กต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด บางรายทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน โดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด มีเพียงได้รับอาหารและที่พักอาศัย หากเด็กขายสินค้าได้ตามกำหนดประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ก็จะถูกตีด้วยไม้แขวนเสื้อบ้าง ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบ้าง และถูกบังคับให้ขายสินค้าจนถึงจำนวนที่กำหนดให้
เด็กบางรายถูกนำไปให้ทำการเช่าสิทธิต่อกับกลุ่มอื่นวนเวียนไป เด็กบางรายถูกทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหวหลบหนีออกจากบ้านพักเดินทางกลับประเทศเกิดบ้าง หลบหนีไปทำงานที่จังหวัดอื่นบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จึงทำการติดตามเด็กที่เคยทำงานอยู่กับกลุ่มดังกล่าว จนในที่สุดได้พบเด็กที่เคยตกเป็นผู้ถูกกระทำ จึงร่วมทำการสอบปากคำกับสหวิชาชีพและทำการคัดแยกผู้เสียหาย ปรากฏว่า เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงาน จึงได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดและหมายค้นเพื่อค้นหาพยานหลักฐานและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์
ซึ่งจากพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติบังคับใช้แรงงานเด็ก โดยได้นำหมายค้นทำการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 4 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยศิลาอุทิศ ต.กะทู้ อ.ป่าตอง จว.ภูเก็ต ทำการจับกุมนาย งอ ซุน หรือ งอง ซัน หรือ NGO SUN อายุ 33 ปี และ น.ส.สุพัตรา เจริญสุข อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันไว้ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี,ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด”พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง
จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 23 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 8 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง จุดที่ 3 บ้านเลขที่ 2/12 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ..ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง และจุดที่ 4 บ้านเลขที่16/16 ซอยนาใน 2 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเด็กมาได้จำนวน 17 คน จึงได้นำตัวไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นบุตรของผู้ใด และคัดแยกว่าผู้ใดเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามหมายจับได้ดำเนินการซักถามขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะถูกบังคับใช้แรงงานนอกจากนี้ ยังพบบุคคลต่างด้าวที่น่าจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแก๊งค้ามนุษย์แก๊งนี้เป็นแก๊งใหญ่ที่มีชาวต่างชาติร่วมมือกับคนไทยเข้ามาทำเป็นขบวนการ ส่วนเด็กที่มาทำงานนั้นพบว่ามีทั้งที่สมัครใจ และถูกบังคับมา แต่ตามกฎหมายแล้วจะต้องมีการดำเนินคดิอย่าง แน่นอน และแก๊งนี้นับเป็นการจับกุมเครือข่ายใหญ่ที่มีถึง 4 เครือข่ายที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ โดยนับจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์จะร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และบ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการช่วยเหลือคัดแยกเด็กที่ตรวจพบ เพื่อฟื้นฟูเยียวยาทางจิตใจ และทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และที่สำคัญแก๊งค้ามนุษย์จะต้องหมดไปจากประเทศไทย