ตรัง - 2 ส.ส.ปชป.ตรัง จับมือกับการยางฯ จัดเวทีเสวนา “ทางเลือก ทางรอดชาวสวนยาง” เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขจากตัวแทนเกษตรกรครอบคลุม 4 กลุ่ม หลังจากราคายางยังคงตกต่ำต่อเนื่อง
วันนี้ (17 ก.พ.) ที่โรงแรมเรือรัษฎา ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.เขต 3 และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 จับมือกับ อบจ.ตรัง และการยางแห่งประเทศไทย ร่วมกันเปิดเวทีเสวนา “ทางเลือก ทางรอดชาวสวนยาง” เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขจากตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางครอบคลุม 4 กลุ่ม คือ การแก้ไขปัญหาราคายางและนโยบายประกันรายได้ จากตัวแทนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร สิทธิการใช้ประโยชน์จากที่ดินทำกินจากชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ การแปรรูปยางพาราเพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวน จากกลุ่มเกษตรกรรายย่อย เพื่อนำข้อสรุปไปผลักดันเสนอต่อรัฐบาล เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรชาวสวนยางต่อไป หลังจากที่มีปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.เขต 3 กล่าวว่า หลังจากที่ได้ข้อสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไขจากทั้ง 4 กลุ่มในวันนี้แล้ว จะนำเสนอเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาต่อจังหวัดและต่อรัฐบาลต่อไป โดยสรุปจากทุกกลุ่มตั้งแต่ต้นน้ำคือ น้ำยาง ไปจนถึงคุณภาพชีวิตและหนี้สินของเกษตรกร พร้อมจะผลักดันไปให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเดินไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนการนำข้อสรุปไปผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมหรือต้องมาเปิดเวทีใหม่ ในฐานะที่เป็น ส.ส.ตรัง และเป็นผู้นำรุ่นใหม่ จึงได้เปิดเวทีขึ้นมารับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้ได้ดีที่สุด
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 กล่าวว่า หลังจากมีนโยบายประกันรายได้และหลายมาตรการออกไปแล้ว แต่ราคาก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะลงลึกไปไม่ถึงระดับรากหญ้า จึงทำเกิดการชุมนุมเรียกร้องขึ้นในหลายจังหวัด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ และรับผิดชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยจึงเปิดเวทีเสวนาขึ้น โดยเชิญตัวแทนจากทุกส่วนมาคุยกัน เพราะจะปล่อยให้สภาพการดำรงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ และเรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจะตั้งรับที่กรุงเทพฯ อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องออกมาฟังเสียงที่แท้จริงของประชาชน โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องยางพาราไม่ควรเป็นปัญหาพรรคการเมืองหรือไม่แยกพรรค แต่เป็นเรื่องของชาวบ้านที่จะต้องแก้ไขให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงเรียกร้องของชาวสวนยางที่ไม่ต้องการประกันรายได้ เพราะเป็นแค่เรื่องฉาบฉวย แต่ต้องการให้ประกันราคายางทุกกิโลกรัมตามที่พรรคการเมืองได้เคยหาเสียงไว้ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้ดูแลกระทรวงเกษตรฯ รับทราบข้อเรียกร้องนี้หรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป้าหมายในวันนี้คิดว่าทำอย่างไรให้ยางพารากลับมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ต้องคิดนอกกรอบ หรือต่างจากสิ่งที่เคยทำ โดยราคายางจะหวนกลับไปอยู่ที่ประมาณ 20-30 ปีที่แล้วไม่ได้ และต้องมีความมั่นคงด้านราคา ซึ่งตนเองในฐานะ ส.ส.ไม่มีหน้าที่ปกป้องรัฐบาลในเชิงการทำงาน แล้วปกปิดความจริงว่าชาวบ้านไม่เดือดร้อน แต่ตนเองต้องบอกรัฐบาลว่าชาวบ้านเดือดร้อนมากแล้ว จะอยู่กันไม่ได้ และรัฐบาลควรจะทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน พอใจในแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องราคายางของรัฐบาล หรือกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องของราคามีหลายประเด็นมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของตลาดใหม่ที่ขณะนี้ไปเปิดสัญญากันแล้ว แต่ยังไม่เกิดผลทันที แต่เรื่องใหญ่คือ เรื่องการกระตุ้นการใช้ยางภายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลใช้งบประมาณก้อนหนึ่งเกือบพันล้านบาท เพื่อที่จะนำยางพารามาแปรรูป แต่กระบวนการในการใช้งบประมาณล่าช้ามาก เช่น ต้องตรวจสูตรยาง เรื่องการจดลิขสิทธิ์ โดยชาวบ้านซึ่งเป็นกลุ่มแปรรูปอยากทำมากแต่ติดกระบวนการที่ล่าช้า ดังนั้น จึงต้องเร่งกระตุ้นกระบวนการ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องลงมาเต็มตัว ไม่เช่นนั้นสหกรณ์โรงรมยาง หรือโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางจะเดินหน้าเรื่องนี้ยาก
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า แสดงว่ายังไม่พอใจกับการทำงานของรัฐมนตรี หรือกระทรวงเกษตรฯ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตัวท่านรัฐมนตรีเองก็ประกาศว่า ยังพอใจไม่ได้ ถึงแม้นโยบายการประกันรายได้จะน่าพอใจระดับหนึ่ง เพราะจ่ายได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว รวมทั้งคนไม่เอกสารสิทธิก็ได้ด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำให้ แต่จากราคาที่ยังไม่ขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายจะประกาศว่าพอใจไม่ได้จนกว่าราคาจะขึ้นจริง