ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวลงพื้นที่ภูเก็ต รับฟังผลกระทบท่องเที่ยวจากไวรัสโคโรนา นักวิชการคาดหนักสุดเดือนมีนาคมจีนหายทั้งหมด ทำสูญเม็ดเงินกว่า 3 หมื่นล้าน ธุรกิจรับทัวร์จีนเงียบเหงาอย่างหนักเริ่มทยอยปิดตัวบ้างแล้ว เอกชนขอเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลเสริมสภาพคล่อง ดึงคน กทม.สูดอากาศบริสุทธิ์ฝั่งอันดามัน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (17 ก.พ.) กรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายนัทธี ถิ่นสาคู รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว คนที่ 2 พร้อมคณะ เดินทางมารับฟังปัญหาของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแล้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ นายสรายุทธ์ มัลลัม ประธานสภาอุตสหากรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน ร่วมนำเสนอปัญหา ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายนัทธี ถิ่นสาคู รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว คนที่ 2 กล่าวว่า การมาภูเก็ตในครั้งนี้ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว เนื่องจากทางคณะกรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะหากผลกระทบที่เกิดขึ้นลากยาวไปถึง 2-3 เดือน มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องได้รับการเยียวยาโดยเร่งด่วนที่สุด ทางคณะกรรมาธิการฯ จึงได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้ไปรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการด้านรถบัส เรือ ซึ่งขณะนี้จอดเกือบทั้งหมดแล้วเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวจีนใช้บริการ และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลของผู้ประกอบการ ซึ่งทางผู้ประกอบการต้องการที่จะให้รัฐบาลเข้ามาให้การช่วยเหลือในเรื่องของเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำ เพื่อพยุงธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาไปให้ได้ ทั้งในส่วนของโรงแรม ที่พัก รถ เรือ และที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยคาดว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการนั้นไม่น่าจะต่ำกว่า 2-3 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจากการที่ได้รับทราบข้อมูลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่าจะต่ำกว่า 2-3 เดือน โดยในเดือนกุมภาพันธ์นี้ นักท่องเที่ยวจีนลดลงร้อยละ 60-70 และหนักสุดในเดือนหน้าคือเดือนมีนาคมที่นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าในเดือนเมษายนนักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับเข้ามาจากการแพร่ระบาดที่ลดลง และอาจจะสามารถผลิตยามารักษาได้ แต่จะกลับเข้ามาประมาณร้อยละ 50 สิ่งที่จะต้องเร่งให้การช่วยเหลือคือปัญหาเฉพาะหน้าที่ผู้ประกอบการกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ด้าน ดร.ชยานนท์ ภู่เจริญ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา คณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า จากการวิจัยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ และสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ จะทำให้ภูเก็ตต้องสูญเสียรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวจีนไม่ต่ำกว่า 30,000-32,000 ล้านบาท โดยการประเมินจากค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวที่หายไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ที่หายไปทั้งหมด โดยผลกระทบจะหนักสุดในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ คาดว่าจะทำให้ภูเก็ตสูญรายได้จากการท่องเที่ยวเฉพาะเดือนมีนาคมไม่ต่ำกว่า 8,500-9,000 ล้านบาท การสูญเสียรายได้จากตลาดจีนในครั้งนี้จะส่งผลให้ GDP ของภูเก็ตหายไป 14,000-16,000 ล้านบาท หรือประมาณ 6-7% ของ GDP ทั้งหมด ซึ่งยังไม่รวมการสูญเสียรายได้จากธุรกิจต้นน้ำอื่นๆ ที่มาสนับสนุนการท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกด้วย
ขณะที่ นายสรายุทธ์ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ท่องเที่ยวภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างหนัก โรงแรมบางแห่งได้ปิดตัวไม่แล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานอีกด้วย อัตราเข้าพักโรงแรมลดลงโดยเฉพาะโรงแรมที่รับทัวร์จีนได้รับผลกระทบหนักมาก ลูกค้าหายไปเกือบทั้งหมด ตอนนี้ทุกธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สปา ร้านจำหน่ายของที่ระลึก หมอนยางพารา โชว์ต่างๆ สถานบันเทิงและมัคคุเทศก์ บรรยากาศเงียบเหงามาก แม้แต่ร้านใหญ่อย่างคิงเพาเวอร์ก็เปิดให้บริการเป็นเวลาและแนะนำให้นักท่องเที่ยวไปใช้บริการที่สนามบินแทน
โดยในส่วนของผู้ประกอบการนั้นต้องการให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนในส่วนของเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ซึ่งจะขอเป็นครั้งๆ ละ 3 เดือน แต่จะไม่เกิน 12 เดือน เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินได้และผ่าวิกฤตโคโรนาระบาดให้พ้นไปให้ได้ รวมทั้งได้ขอการสนับสนุนจากทางจังหวัดภูเก็ตในการจัดสรรงบประมาณในการทำตลาดในประเทศโดยการดึงคนไทยมาเที่ยวภูเก็ต ที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยจะทำตลาดในคอนเซ็ปต์ “ชาว กทม.สูดอากาศที่ดีเต็มปอดครั้งสุดท้ายเมื่อใด ภูเก็ต พังงา กระบี่ มีอากาศที่ดี” ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นจะมีการเดินทางไปทำโรดโชว์ในเมืองต่างๆ ที่มีศักยภาพ แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ในการที่จะดึงตลาดในต่างประเทศเข้ามาภูเก็ต
