สุราษฎร์ธานี - กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง บนเกาะสมุย สุดทนบุกอำเภอ โวย ถูกแก๊งอ้างหน่วยงานรัฐ จับแรงงานต่างด้าว ปรับศาลเตี้ย รายละ 30,000 - 50,000 บาท ทำให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายเล็ก ๆ ไม่สามารถแบกรับภาระได้ ต้องทยอยปิด

วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างกว่า 100 คน ถือป้ายข้อความระบุ ว่า ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐไม่ให้ความเป็นธรรม นำกำลังบุกจับแรงงานก่อสร้างที่เป็นต่างด้าว พร้อมข่มขู่เรียกเงิน หากไม่จ่ายจับปรับขึ้นศาลเตี้ย รายละ 30,000-50,000 บาท สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มประกอบการรับเหมาก่อสร้างบนเกาะสมุย ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายเล็กๆ อยู่ไม่ได้ต้องปิดตัวลงไปแล้วหลายราย
สำหรับการรวมตัวในครั้งนี้ มี นายเกชา เกตุสุวรรณ์ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย เป็นแกนนำ โดยนำกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างบนเกาะสมุย มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว ภายหลังจากได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูป้ายเรียกร้องที่หน้าว่าการอำเภอเกาะสมุย ไปแล้ว โดยมี พ.ต.ต.ปราโมทย์ ขวัญเมือง สวป.สภ.เกาะสมุย พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน พื้นที่เกาะสมุย สังเกตการณ์ และรักษาความปลอดภัย แต่ไม่มีเหตุรุนแรง

ภายหลังกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่แสดงเชิงสัญลักษณ์ ที่หน้าว่าการอำเภอเกาะสมุย เสร็จแล้ว ได้เดินทางพร้อมนำหนังสือร้องเรียนเข้ายื่นให้แก่ นายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย ภายในห้องประชุม โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเกาะสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังปัญหา
จากนั้นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างได้เปิดเผยถึงความเดือดร้อน พร้อมขอให้ทางอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานอำเภอเกาะสมุย ช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีแรงงานต่างด้าว ทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง

นายเกชา เกตุสุวรรณ์ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า เนื่องด้วยทางผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างมีความเดือดร้อนจากข้อกฎหมาย ว่า ด้วยอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ซึ่งได้มีหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่งมาจับกุมแรงงานต่างด้าว ในข้อหาทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ คือ อาชีพกรรมกร ไม่สามารถไปทำงานที่เกี่ยวข้องกับกึ่งช่าง หรือช่างฝีมือได้ ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวทำให้ทางผู้รับเหมาได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากการทำงานทุกอย่างในงานก่อสร้างต้องใช้แรงงานต่างด้าวในการทำงาน อย่างเช่น งานก่ออิฐ งานฉาบปูน งานทาสี และการประกอบแบบคานที่เป็นคอนกรีต ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้แรงงานต่างด้าว เนื่องจากแรงงานไทยไม่ทำ
สำหรับการร้องเรียนในครั้งนี้ ต้องการให้ทางภาครัฐแก้ไขบทบัญญัติกฎหมายในรายละเอียดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าว ให้สอดคล้องต่อการทำงานก่อสร้าง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการกระบวนการตามกฎหมายในการจับกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และให้ผู้เกี่ยวข้องเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาจับกุม และเรียกเก็บ และปรับเงินนอกระบบอย่างป่าเถื่อน เพราะการจับกุมเป็นเพียงรายละเอียดของการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น หากซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือค้ามนุษย์ ทางผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างยินดีให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมายตลอดมา

จึงอยากเรียกร้องให้อำเภอเกาะสมุย ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย และ สำนักงานแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นตัวแทนผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อขอให้ผ่อนปรนการทำงานของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างหลายราย กล่าวว่า รู้สึกเอือมระอากับพฤติกรรมของหน่วยงานรัฐหน่วยงานแห่งหนึ่งที่ลงมาจับกุมกรรมกรก่อสร้าง พร้อมเรียกร้องค่าไม่ดำเนินคดี แต่ต้องเคลียร์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องยอมจ่าย ครั้งละ 30,000-50,000 บาท หากผู้รับเหมาไม่จ่าย ก็ส่งดำเนินคดี ผู้รับเหมาบางคนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ มีคนงานแค่ 20-30 คน ถูกจับครั้งละ 30,000-50,000 บาท บางรายถูกเรียกเงินเป็นแสนบาท จนขณะนี้ต้องปิดตัวไปหลายรายแล้ว

ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างบางราย กล่าวในที่ประชุมว่า ทุกวันนี้ตนต้องจ่ายเงินให้แก่หน่วยงานรัฐ จำนวน 9 หน่วย เป็นรายเดือน หน่วยละ 3,000 บาท รวม 9 หน่วยงาน เดือนละประมาณ 27,000 บาทต่อเดือน จึงขอให้เห็นใจกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างบ้าง ทำงานแทบไม่เหลือ หากไม่จ่ายก็ต้องถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย
ด้าน นายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ขอรับเรื่องเอาไว้ตรวจสอบ พร้อมจะให้ความเป็นธรรม และจะส่งหนังสือถึง ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เพื่อให้ทราบ และเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ และตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ผู้ประกอบการก่อสร้างบนเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หากปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐใช้วิธีปรับศาลเตี้ยต่อไป ทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างในอำเภอเกาะสมุย จะนำปัญหาเรื่องนี้ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป เช่น ตำรวจภูธรภาค 8 และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวนี้ต่อไป

วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างกว่า 100 คน ถือป้ายข้อความระบุ ว่า ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐไม่ให้ความเป็นธรรม นำกำลังบุกจับแรงงานก่อสร้างที่เป็นต่างด้าว พร้อมข่มขู่เรียกเงิน หากไม่จ่ายจับปรับขึ้นศาลเตี้ย รายละ 30,000-50,000 บาท สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มประกอบการรับเหมาก่อสร้างบนเกาะสมุย ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายเล็กๆ อยู่ไม่ได้ต้องปิดตัวลงไปแล้วหลายราย
สำหรับการรวมตัวในครั้งนี้ มี นายเกชา เกตุสุวรรณ์ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย เป็นแกนนำ โดยนำกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างบนเกาะสมุย มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว ภายหลังจากได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูป้ายเรียกร้องที่หน้าว่าการอำเภอเกาะสมุย ไปแล้ว โดยมี พ.ต.ต.ปราโมทย์ ขวัญเมือง สวป.สภ.เกาะสมุย พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน พื้นที่เกาะสมุย สังเกตการณ์ และรักษาความปลอดภัย แต่ไม่มีเหตุรุนแรง
ภายหลังกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่แสดงเชิงสัญลักษณ์ ที่หน้าว่าการอำเภอเกาะสมุย เสร็จแล้ว ได้เดินทางพร้อมนำหนังสือร้องเรียนเข้ายื่นให้แก่ นายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย ภายในห้องประชุม โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเกาะสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังปัญหา
จากนั้นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างได้เปิดเผยถึงความเดือดร้อน พร้อมขอให้ทางอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานอำเภอเกาะสมุย ช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีแรงงานต่างด้าว ทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง
นายเกชา เกตุสุวรรณ์ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า เนื่องด้วยทางผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างมีความเดือดร้อนจากข้อกฎหมาย ว่า ด้วยอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ซึ่งได้มีหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่งมาจับกุมแรงงานต่างด้าว ในข้อหาทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ คือ อาชีพกรรมกร ไม่สามารถไปทำงานที่เกี่ยวข้องกับกึ่งช่าง หรือช่างฝีมือได้ ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวทำให้ทางผู้รับเหมาได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากการทำงานทุกอย่างในงานก่อสร้างต้องใช้แรงงานต่างด้าวในการทำงาน อย่างเช่น งานก่ออิฐ งานฉาบปูน งานทาสี และการประกอบแบบคานที่เป็นคอนกรีต ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้แรงงานต่างด้าว เนื่องจากแรงงานไทยไม่ทำ
สำหรับการร้องเรียนในครั้งนี้ ต้องการให้ทางภาครัฐแก้ไขบทบัญญัติกฎหมายในรายละเอียดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าว ให้สอดคล้องต่อการทำงานก่อสร้าง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการกระบวนการตามกฎหมายในการจับกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และให้ผู้เกี่ยวข้องเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาจับกุม และเรียกเก็บ และปรับเงินนอกระบบอย่างป่าเถื่อน เพราะการจับกุมเป็นเพียงรายละเอียดของการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น หากซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือค้ามนุษย์ ทางผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างยินดีให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมายตลอดมา
จึงอยากเรียกร้องให้อำเภอเกาะสมุย ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย และ สำนักงานแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นตัวแทนผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อขอให้ผ่อนปรนการทำงานของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างหลายราย กล่าวว่า รู้สึกเอือมระอากับพฤติกรรมของหน่วยงานรัฐหน่วยงานแห่งหนึ่งที่ลงมาจับกุมกรรมกรก่อสร้าง พร้อมเรียกร้องค่าไม่ดำเนินคดี แต่ต้องเคลียร์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องยอมจ่าย ครั้งละ 30,000-50,000 บาท หากผู้รับเหมาไม่จ่าย ก็ส่งดำเนินคดี ผู้รับเหมาบางคนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ มีคนงานแค่ 20-30 คน ถูกจับครั้งละ 30,000-50,000 บาท บางรายถูกเรียกเงินเป็นแสนบาท จนขณะนี้ต้องปิดตัวไปหลายรายแล้ว
ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างบางราย กล่าวในที่ประชุมว่า ทุกวันนี้ตนต้องจ่ายเงินให้แก่หน่วยงานรัฐ จำนวน 9 หน่วย เป็นรายเดือน หน่วยละ 3,000 บาท รวม 9 หน่วยงาน เดือนละประมาณ 27,000 บาทต่อเดือน จึงขอให้เห็นใจกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างบ้าง ทำงานแทบไม่เหลือ หากไม่จ่ายก็ต้องถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย
ด้าน นายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ขอรับเรื่องเอาไว้ตรวจสอบ พร้อมจะให้ความเป็นธรรม และจะส่งหนังสือถึง ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เพื่อให้ทราบ และเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ และตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้ประกอบการก่อสร้างบนเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หากปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐใช้วิธีปรับศาลเตี้ยต่อไป ทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างในอำเภอเกาะสมุย จะนำปัญหาเรื่องนี้ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป เช่น ตำรวจภูธรภาค 8 และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวนี้ต่อไป