ตรัง - กลุ่มเครือข่ายตลาดนัดอินทรีย์ตรัง ร่วมกับชมรมชายผ้าเหลือง นำเด็กๆ มาเรียนรู้วิธีการปลูกข้าวไร่ในสวนยาง รวมทั้งการลงแขกเกี่ยวข้าว การทำข้าวม้าว และการทำปี่ซังข้าว อย่างสนุกสนาน
วันนี้ (5 ก.พ.) กลุ่มเครือข่ายตลาดนัดอินทรีย์จังหวัดตรัง ร่วมกับชมรมชายผ้าเหลือง เพื่อเพื่อนผู้ป่วยระยะสุดท้าย วัดห้วยยอด ได้นำเด็กและเยาวชนมาเรียนรู้วิธีการปลูกข้าวไร่ และวิธีการลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ โดยใช้อุปกรณ์ที่ทำจากภูมิปัญญาชาวปักษ์ใต้ที่เรียกว่า “แกะ” แทนการใช้เคียวตัด หรือใช้รถตัด ณ แปลงข้าวไร่ หมู่ที่ 2 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นของ นางพรรณี คงเอียด อายุ 54 ปี ชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งใช้พื้นที่ว่างในสวนยางพารา ประมาณ 9 ไร่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อเอาข้าวไว้กินในครัวเรือน หรือหากเหลือกินก็ไว้จำหน่ายเป็นรายได้เสริม เพื่อให้เครือญาติและเพื่อนบ้านได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพไร้สารเคมี
ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านในตำบลท่าสะบ้า ทั้งคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ต่างช่วยกันสอนเด็กๆ ใช้แกะเกี่ยวข้าวทีละรวง หรือ 2 รวง จากนั้นนำมารวมกันเป็นกำมือ แล้วมัดเป็นเลียงข้าว เก็บไว้ตาก นวด และไว้สีนำไปรับประทานในครัวเรือน
นอกจากนั้น ยังสอนให้เด็กๆ เรียนรู้วิธีการทำข้าวม้าว หรือข้าวเม่า นับตั้งแต่การนำข้าวที่เมล็ดไม่แข็งเกินไปมาแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วนำมาคั่วให้ร้อนในกระทะ จากนั้นเทใส่ครกตำข้าว และลงมือตำซ้อมมือกัน 2 คน จนเมล็ดข้าวแตกออกจากเปลือก และใช้แยกด้วยกระด้ง เพื่อให้ได้ข้าวม้าวที่นำไปผสมกับน้ำมะพร้าว และมะพร้าวขูด ได้รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
รวมทั้งยังสอนให้เรียนรู้วิธีการทำปี่ซังข้าว ของเล่นเด็กๆ ชาวไร่ชาวนาสมัยก่อนที่ทำจากซังข้าว ซึ่งเมื่อเอามาเป่าจะมีเสียงดัง และบางคนยังสามารถเป่าให้เป็นเพลงได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในปัจจุบันพื้นที่ปลูกข้าวหายไปเกือบหมดแล้ว และกลายเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา ไปแล้วเกือบทั้งหมด ส่งผลให้เด็กๆ ยุคใหม่แทบจะไม่เคยเห็นวิธีการทำไร่ ทำนา หรือการเกี่ยวข้าวอีก แต่เมื่อได้ลงมาสัมผัสของจริง จึงให้บรรยากาศของการเรียนรู้เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งเด็ก เยาวชน และคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ผู้สอน
นางพรรณี คงเอียด อายุ 54 ปี เจ้าของแปลงข้าวไร่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ ได้รวมกลุ่มกันทำนาทำไร่ประมาณ 20 ราย แบ่งเป็นการทำข้าวไร่ 9 ราย และการทำนา 11 ราย โดยข้าวไร่นั้นจะปลูกโดยอาศัยพื้นที่ว่างในสวนยางปลูกใหม่ของเพื่อนบ้าน เพื่อปลูกข้าวไร่ฟรีไว้กินในครัวเรือน ซึ่งเพื่อนบ้านทุกคนก็เต็มใจให้ปลูก เพื่อไม่ให้หญ้าขึ้นรกสวนยาง และได้ข้าวไว้แบ่งปันกันกิน ซึ่งจะขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท และจะสีด้วยเครื่องสีข้าวแบบโบราณ โดยจะออกมาเป็นข้าวซ้อมมือที่มีคุณภาพและวิตามิน เพียงแต่คนซื้อต้องกินให้หมดภายใน 15 วัน เพราะไม่เคลือบยาฆ่าแมลง