ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าเรือรับส่งนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ ในภูเก็ตเงียบเหงา บางแห่งกำลังจะกลายเป็นท่าเรือร้าง สปีดโบ๊ตจอดสนิท ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาใช้บริการ หลังไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดหนักในจีน นักท่องเที่ยวจีนหายไปจำนวนมาก ส่งผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ต
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณท่าเรือรุ่งสยาม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายท่าเรือนำเที่ยวด้วยเรือสปีดโบ๊ต คลองท่าจีน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เงียบเหงาจนเกือบจะกลายเป็นท่าเรือร้าง ร้านขายสินค้าที่ระลึกและสิ่งของต่างๆ ที่เคยเปิดขายให้แก่นักท่องเที่ยว 5-6 ร้านปิดสนิท นอกจากนี้ บริเวณที่ว่างภายในท่าเรือได้มีการนำเรือสปีดโบ๊ตจำนวนหนึ่งขึ้นมาจอดแห้ง (จอดบนบก) ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ หลังเกิดสถานการณ์โรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการจะเป็นชาวจีนที่เดินทางกันมาเป็นกรุ๊ป ไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะพีพี จ.กระบี่ เกาะไข่ จ.พังงา เกาะราชา จ.ภูเก็ต เป็นต้น ส่วนบริเวณลานจอดรถซึ่งช่วงปกติจะมีรถบัสมาจอดส่งนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้ไม่มีให้เห็นเลย โดยพื้นที่ว่างก็ถูกปรับเพื่อนำเรือขึ้นมาจอดแทน เพราะหากจอดไว้ในน้ำก็จะมีค่าใช้จ่ายสูง
สอบถามเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ซึ่งมาทำหน้าที่ในการตรวจนับผู้โดยสารที่จะลงเรือ และเจ้าหน้าที่มาดูแลนักท่องเที่ยวของบริษัทรายหนึ่ง บอกว่า ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาใช้บริการท่าเรือ เพื่อขึ้นเรือสปีดโบ๊ตไปเที่ยวยังเกาะต่างๆ ในช่วงระหว่างเวลาประมาณ 08.00-10.30 น. ของทุกวันหายไปเกือบหมด เหลือตกค้างอยู่เล็กน้อย และจะเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น เช่น อินเดีย ยุโรป เป็นต้น ปกติจะมีเรือออกไปท่องเที่ยววันละกว่า 20 ลำ จำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 700-800 คน แต่ขณะนี้เหลือวันละประมาณ 2-3 ลำ จำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 100 คน ทำให้ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวที่มาใช้บริการท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งมีประมาณ 6-7 บริษัท ต้องปิดกิจการไป บางรายต้องขายเรือ ขณะที่บางรายนำทรัพย์สินไปจำนอง เพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่พนักงาน เพราะทางเอเยนต์ยังไม่ได้จ่ายในส่วนที่มีเครดิตกันอยู่
ด้าน นายอนุรักษ์ ชีวพัฒนนท์ ผู้บริหารท่าเรือ บอกว่า หลังจากเกิดปัญหาไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่วนของท่าเรือได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คือ ผู้ประกอบการเจ้าของเรือสปีดโบ๊ตที่มาใช้บริการของท่าฯ ซึ่งมาใช้บริการท่าเรืออยู่ประมาณ 6-7 บริษัท โดยเป็นบริษัทเล็กๆ ที่รับนักท่องเที่ยวมาจากเอเยนต์ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน อาจจะเหลือตกค้างอยู่บ้างแต่น้อยมาก และนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น เช่น ฝรั่ง อินเดีย เป็นต้น แต่จำนวนไม่มาก ซึ่งในช่วงปกติเรือจะออกจากท่าวันละกว่า 10 ลำ แต่ปัจจุบันเหลือวันละ 1-2 ลำ ในขณะที่บางวันก็ไม่มีเรือออกเลย ขณะที่ร้านค้าบนฝั่งหน้าท่าซึ่งเป็นของแต่ละบริษัท ขณะนี้บางร้านปิดตัว และบางร้านก็มาคืนพื้นที่ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย
ผลกระทบที่เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่พนักงานเรือตกงาน ซึ่งเรือแต่ละลำจะมีพนักงาน 3 คน คือ กัปตัน 1 คน และเด็กเรือหรือช่างเครื่องรวม 2 คน พนักงานที่ขายของบริเวณหน้าท่าเรือ คนขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว และเจ้าของเรือเอง ซึ่งมีบริษัทย่อยๆ กระทบกันเป็นลูกโซ่ นายอนุรักษ์ กล่าวและว่า สิ่งที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยถ้าเป็นไปได้คงจะเป็นการหาตลาดมาทดแทนตลาดจีนที่หายไป เพราะ 1-2 ปีนี้ ผู้ประกอบการประสบกับสถานการณ์ต่างๆ ค่อนข้างมาก พอเริ่มจะดีขึ้นก็มาเกิดปัญหาขึ้นอีก