xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้การนราฯ” นำทีมเก็บหลักฐานหนุ่มใหญ่ถูกถล่มด้วยอาก้าตายคาเก๋งอีกครั้ง รอตรวจสอบภาพหน้ารถเพื่อชี้สาเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
นราธิวาส - ผู้การตำรวจ จ.นราฯ นำทีมเข้าพื้นที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานละเอียดอีกครั้ง คราวนี้ได้ปลอกกระสุนอาก้าสังหารเพิ่มในสวนยางอีกรวมเป็น 9 นัด ชี้ไม่ฟันธงเหตุที่ยิงชาวบ้านตายคารถเก๋งที่ อ.บาเจาะ รอตรวจสอบจากกล้องหน้ารถผู้ตายที่บันทึกภาพไว้อีกครั้ง
 
วันนี้ (30 ม.ค.) พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ แดยิหวา สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิง นายอับดุลการีม รือสะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาพวงมาลัยของรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีดำ ทะเบียน กฉ 2778 ปัตตานี บนถนนในหมู่บ้านแบรอ ม.2 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เหตุเกิดในช่วงเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง
 
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องสแกนตรวจวัตถุโลหะที่บริเวณริมป่าสวนยางพารา 2 ข้างทาง ที่รถยนต์เก๋งของผู้เสียชีวิตจอดเสียหลักอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนอาก้าได้เพิ่มเติมอีก 1 ปลอก รวมเป็น 9 ปลอก และจากการตรวจสอบวิถีกระสุนปืนที่ยิงผ่านกระจกหน้าและกระจกด้านคนขับของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายแตกเป็นรูโหว่นั้น คล้ายลักษณะคนร้ายใช้อาวุธปืนดักซุ่มยิงจากป่าสวนยางพาราริมทาง
  


 
แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญคือ กล้องวงจรปิดที่ติดภายในรถยนต์เก๋งที่เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบ เพื่อดูพฤติกรรมของคนร้ายว่าได้ก่อเหตุในลักษณะใด หลังจากที่กล้องวงจรปิดที่จุดตรวจในพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ สามารถบันทึกพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่สวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้าได้ขี่รถ จยย.ผ่านจุดตรวจ
 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานในเบื้องต้นไว้ 2 กรณี คือ ตามประกบยิงหรือดักซุ่มยิง ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้ว คนร้ายอีก 1 คนได้ขี่รถ จยย.มารับขับหลบหนี หลังจากที่นายอับดุลการีม ได้ขับรถยนต์เก๋งจากบ้านในพื้นที่ อ.กะพ้อ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ ต.ปะลุกาสาเมาะ เพื่อกลับมาบ้านของภรรยา ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน
 
 ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าปมเหตุมาจากเรื่องใด โดยยังไม่ตัดทิ้งทุกประเด็น ทั้งความขัดแย้งส่วนตัวและจากปัญหาความมั่นคง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรอตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์เก๋ง รวมทั้งทยอยเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำว่า น้ำหนักปมเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใด ซึ่งต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน 
 




กำลังโหลดความคิดเห็น