โดย... ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
ต้องยอมรับความจริงอย่างหน้าชื่นตาบานว่า 16 ปี “ไฟใต้ระลอกใหม่” นอกจากสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนอย่างใหญ่หลวงแล้ว “แวดวงพุทธศาสนา” ก็ได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจประเมินค่าได้ มีทั้งเรื่อง “วัด” ถูกทำลาย “พระสงฆ์” ถูกเข่นฆ่าและถูกข่มขู่คุกคามจนไม่อาจจำวัดต่อไปได้ ต้องอพยพออกจากพื้นที่จนเป็นเหตุให้มี “วัดร้าง” เกิดขึ้นมากมาย
มีข้อมูลระบุว่านับจากเหตุการณ์ปล้นฆ่าชิงปืนในค่ายทหารตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2547 จนถึงวันนี้ มีศาสนสถานของชาวพุทธรวม 391 แห่งได้ถูกทำหลายหรือกลายเป็นสถานที่รกร้างไปแล้ว ประกอบด้วย 306 วัด, 22 สำนักสงฆ์และ 63 ที่พักสงฆ์ เนื่องจากพระสงฆ์ไม่กล้าเข้าไปอยู่อาศัย หรืออยู่ไม่ได้เพราะคนไทยพุทธอพยพลี้ภัยออกจากพื้นที่ไปหมดแล้ว
แม้ว่าไม่กี่ปีมานี้ทั้งพระและศาสนสถานอาจจะถูกกระทำจาก “โจรใต้” มีจำนวนลดลง แต่ก็ยังต้องนับเป็นเป้าหมายโจมตีสำคัญของ “ขบวนการบีอาร์เอ็น” อยู่ อย่างช่วงปลายปีที่แล้ววัดที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูกบุกเข้าไปกราดยิงจนทำให้ทั้ง “เจ้าอาวาส” และ “พระลูกวัด” มรณภาพและบาดเจ็บสาหัสไปตามๆ กัน
เมื่อฐานที่มั่นของ “บวรพุทธศาสนา” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในสภาพทั้ง “เปราะบาง” และ “ถดถอย” จึงอย่าได้แปลกใจที่ถึงขั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต. ต้องร่วมกันทำ “โครงการนำไทยพุทธคืนถิ่น” เพื่อรักษาความเป็น “สังคมพหุวัฒนธรรม” ไว้ให้ได้ต่อไป
การสร้างขวัญกำลังใจและศรัทธาต่อบวรพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง เพื่อให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยพุทธบนแผ่นดินไฟใต้ต่อไปได้ นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในยามที่พุทธศาสนาทั้งถูกรุกรานและมีเรื่องเสื่อมเสียกัดกร่อนเนื้อใน
ในปี 2559 พุทธสมาคมจังหวัดยะลา ซึ่งมี นายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธ์ เป็นนายกสมาคม จึงได้คิดวิธีการีสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพระผู้ประพฤติดและปฏิบัติดี ด้วยการจัดทำกิจกรรมยกย่องเพื่อเป็นแบบอย่างในชื่อโครงการว่า “พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” ซึ่งนอกจากจะถวายโล่เกียรติคุณแล้ว ยังจัดพิธีการต่างๆ ให้อย่างสมเกียรติ มีนักเรียนและนักศึกษามาอ่านทำนองสรภัญญะด้วย
ต่อมาปี 2560 พุทธสมาคมจังหวัดนราธิวาส ก็ได้รับไปจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นปีที่ 2 และปี 2561 พุทธสมาคมจังหวัดปัตตานี ได้รับไปสืบทอดสานต่อเป็นปีที่ 3 โดยมีพระผู้ใหญ่ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะสงฆ์ในแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือก “พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” เพื่อเป็นแบบอย่างในการยกย่องและประกาศให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้
สำหรับในปี 2562 ซึ่งจะเป็นปีที่ 4 นับเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างความมั่นคงให้กับบวรพุทธศาสนาในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาและสตูล จึงสนับสนุนงบประมาณให้พุทธสมาคมจังหวัดยะลาจัดกิจกรรมนี้ขึ้นในวันที่ 6 ก.พ.2563 ณ ศาลาการเปรียญวัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครยะลา
“ที่ผ่านมากิจกรรมยกย่องพระเถระผู้ควรกระทำอัญชลีจัดขึ้นโดยพุทธสมาคมของแต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบสลับกันไป แต่ครั้งที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ได้หารือกับ ศอ.บต.จนเห็นชอบให้จัดพร้อมกันทั้ง 5 จังหวัดเลย โดยให้พุทธสมาคมจังหวัดยะลาเป็นผู้รับผิดชอบ” นายวิชัยบอกเล่าให้ฟังและเสริมว่า
พิธียกย่องพระเถระผู้ควรกระทำอัญชลีที่จะจัดขึ้น ณ วัดพุทธภูมิ วันที่ 6 ก.พ.นี้ มีกิจกรรมสำคัญๆ ประกอบด้วย เริ่มเวลา 08.30 น. เลขาธิการ ศอ.บต.ในฐานะประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ต่อด้วยคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนประกอบพิธีขอขมาพระเดชพระคุณผู้สมควรกระทำอัญชลีจากทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามด้วยประธานถวายโล่เชิดชูเกียรติ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พิธีกรอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล พิธีกรอาราธนาพระปริตร พระภิกษุสงฆ์ 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้กล่าวสัมโมทนียคาถา ประธานผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระภิกษุสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำและรับพร
จากนั้นตัวแทนนักเรียนจากทั้ง 5 จังหวัด 240 คนนำสวดมนต์สรภัญญะ ประธานมอบเกียรติบัตรของที่ระลึกแก่ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนนายกพุทธสมาคมทั้ง 5 จังหวัดกล่าวขอบคุณและมอบของที่ระลึกแก่ผู้มีเกียรติและพุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วม แล้วถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ ตบท้ายด้วยผู้มีเกียรติและพุทธศาสนิกชน บุคคลทั่วไป ครูและนักเรียนรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3,000 คน
“หลังจากนายกพุทธสมาคมจังหวัดยะลาได้มาหารือเพื่อให้ ศอ.บต.เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมนี้ พอทราบรายละเอียดผมก็เห็นชอบให้ ศอ.บต.สนับสนุนทันทีทั้งที่ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณรองรับไว้ก่อน เพราะการจัดกิจกรรมส่งเสริมศาสนาพุทธในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องจำเป็น และ ศอ.บต.เองก็มีกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนาอยู่แล้วในแผนงานทุกปีงบประมาณ” พล.ร.ต.สมเกียรติกล่าวและว่า
ขอชื่นชมนายกพุทธสมาคมทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จัดกิจกรรมยกย่องพระเถระผู้ควรกระทำอัญชลีมาถึง 3 ปี ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจการสร้างความเข็มแข็งให้กับทั้งวัด พระสงฆ์และคนไทยพุทธในพื้นที่ ต่อไปเราจะทำให้เกิดการร่วมมือกันทุกภาคส่วนเพิ่มขึ้นไปอีก
สำหรับพระเถระผู้ควรกระทำอัญชลีที่คณะสงฆ์ทั้ง 5 จังหวัดคัดเลือกให้ได้รับการยกย่องในกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 1. พระราชศีลสังวร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสงขลา-สตูล (ธ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส จ.สงขลา 2. พระราชปัญญามุณี เจ้าคณะจังหวัดยะลา เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน จ.ยะลา 3. พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร พระอารมหลวง จ.ปัตตานี 4. พระครูรัตนคุณาภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลคอหงส์-รัตภูมิ (ธ) เจ้าอาวาสวัดป่ามะนังชโลธร จ.สตูล และ 5. พระครูสถิตศีลขันธ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เจ้าอาวาสวัดโบราณสถิต จ.นราธิวาส