ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โซเชียลแฉ! โรงแรมดังบนหาดไตรตรัง จ.ภูเก็ต ลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล เทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ พบปล่อยน้ำเสียลงทะเลจริง อ้างท่อระบบน้ำเสียแตก สั่งปรับแล้วตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง พร้อมสั่งทำแผนบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นระบบ นายกเล็กเมืองป่าตองลั่นทำผิดซ้ำอีกลงโทษให้ถึงที่สุด ฝากผู้ประกอบการอย่าเห็นแก่ตัวต้องช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม
จากกรณีที่มีการเผยแพร่การปล่อยน้ำเสียลงทะเล บริเวณหาดไตรตรัง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ผ่านทางสื่อโซเชียลเมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง เจ้าของพื้นที่ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และอำเภอกะทู้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณหาดไตรตรัง จุดที่มีการเผยแพร่ว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล
นายอธิวัฒน์ ยอดหวาน ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดไตรตรัง ไม่พบน้ำเสีย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น้ำเสียที่มีการร้องเรียนเกิดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่งในพื้นที่ได้ปล่อยน้ำเสียออกมา ซึ่งทางเทศบาลเมืองป่าตองได้มีการป้องกันน้ำเสียไม่ให้ไหลลงท่อรวบรวมน้ำของเทศบาลฯ และให้ทางผู้ประกอบการดำเนินการบำบัดน้ำให้เรียบร้อยก่อนที่จะปล่อยลงสู่ระบบรวบรวมของเทศบาลต่อไป รวมทั้งเทศบาลเมืองป่าตอง ได้มีการเปรียบเทียบปรับสถานประกอบการดังกล่าว ตามมาตรา 33 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง พ.ศ.2535 โดยหลังจากนี้ทางสำนักงาน ทสจ.ภูเก็ต และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 จะได้มีการตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของสถานประกอบการที่ปรากฏในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการและทำการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งของโครงการมาตรวจวิเคราะห์เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าท่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ทำให้ทราบว่า น้ำเสียที่ปล่อยลงมานั้นมาจากสถานประกอบการแห่งใด ซึ่งทางเทศบาลได้เข้าไปพูดคุยและทำความเข้าใจกับสถานประกอบการดังกล่าวแล้ว และทราบสาเหตุของการปล่อยน้ำเสียไหลลงทะเล เนื่องจากท่อรวบรวมน้ำเสียของทางสถานประกอบการแตก จึงทำให้น้ำเสียไหลลงทะเล ในเบื้องต้นได้มีการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 33 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เนื่องจากทำให้สิ่งแวดล้อมได้รับความเสียหาย และให้ทางสถานประกอบการทำแผนในการปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียไม่ให้มีน้ำเสียไหลลงทะเลอีก ส่งมายังเทศบาล และให้ทาง ทสจ.ช่วยพิจารณาเมื่อเห็นว่ามีความเหมาะสมก็จะให้ทางสถานประกอบการดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้
ส่วนกรณีที่สถานประกอบการมีการปล่อยน้ำเสียลงทะเลซ้ำซากโดยไม่มีการแก้ไขนั้น ทางเทศบาลเมืองป่าตอง มีมาตรการในการแก้ไขอย่างไร นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ทางเทศบาลจะลงโทษสถานหนักที่สุดตามที่กฎหมายกำหนดเพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและทำให้สิ่งแวดล้อมได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้ประกอบการก็จะต้องมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม จะมาประหยัดเรื่องไฟฟ้าในการบำบัดน้ำเสีย แล้วปล่อยให้มีน้ำเสียไหลงทะเลทำลายสิ่งแวดล้อม สุดท้ายแล้วปัญหาก็จะตามมาถึงตัวผู้ประกอบการเอง เมื่อธรรมชาติถูกทำลาย นักท่องเที่ยวก็จะไม่มาท่องเที่ยว ผลกระทบก็จะเกิดกับผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไมได้
น.ส.เฉลิมลักษณ์ กล่าวต่อว่า เทศบาลเมืองป่าตองไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล ที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยมีการใช้งบประมาณในการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียมาแล้วถึง 4 เฟส และกำลังจะดำเนินการในเฟสที่ 5 ที่สามารถรองรับน้ำเสียได้เพิ่มอีกวันละ 9,000 ลบ.ม. จะทำให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้ถึงวันละกว่า 30,000 ลบ.ม. ครอบคลุมเมืองป่าตอง แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องให้ความร่วมมือในการต่อท่อเข้าสู่ระบบของเทศบาลด้วย ไม่ใช่แอบปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่สาธารณะหรือลงทะเล หรือท่อรับน้ำฝนของเทศบาล หากสถานประกอบการใดไม่เข้าในระบบก็สามารถที่จะติดต่อสอบถามได้ที่กองช่างสุขาภิบาล ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้ปรึกษาแก่สถานประกอบการได้ ทั้งนี้ทเพื่อร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเมืองป่าตองให้เป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตลอดไป