ตรัง - เกษตรกรชาวนาโยง จ.ตรัง พลิกผืนนาที่ลุ่มหันมาปลูกไผ่หวานกิมซุง โดยสามารถออกหน่อได้ตลอดปี ส่วนต้นส่งขายให้พ่อค้าทำข้าวหลาม และยังนำเศษวัสดุจากไผ่มาแปรรูปเป็นภาชนะใส่น้ำ
วันนี้ (17 ม.ค.) นายสมปอง บุญรอด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 10 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง ได้พลิกผืนนาที่ลุ่มซึ่งเคยขุดยกร่องเพื่อปลูกไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ แต่ก็ถูกน้ำก็ท่วมตายหมดเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะหันมาปลูกไผ่หวานกิมซุง บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ รวมประมาณ 20 กอ จนประสบผลสำเร็จและสามารถสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว เนื่องจากไผ่หวานจะออกหน่อตลอดปี และช่วงนี้มีราคาค่อนข้างสูงกิโลกรัมไม่น้อยกว่า 20 บาท ชนิดที่ไม่ต้องปอกเปลือก เพราะหน่อไม้ในป่าธรรมชาติหาได้ยาก ส่วนต้นไผ่ก็สามารถขายได้ดี โดยมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อเพื่อนำไปทำข้าวหลาม ในราคาลำละ 35 บาท
นอกจากนั้น ต้นไผ่ยังนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง เช่น ไม้จิ้มฟัน ไม้หนีบปิ้งไก่ ไม้เสียบลูกชิ้น หรือนำไปทำแคร่ เก้าอี้ หรือซุ้มเล็กๆ ส่วนเศษวัสดุที่เหลือจากไผ่สามารถนำมาทำแจกัน แก้วน้ำ หรือจอกชาเล็กๆ และเก็บไว้ได้นานเป็นปี เพราะทางสวนจะใช้กระบวนการอบความร้อนควบคู่กับเกลือและสารส้มเพื่อไล่ความชื้น ก่อนนำสินค้าแปรรูปจากไผ่เหล่านี้มาวางขายที่ตลาดคนเดิน หน้าสถานีรถไฟตรัง ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ในราคาชิ้นละ 30-50 บาท เพื่อเป็นอีกหนึ่งในช่องทางการตลาด
ปัจจุบัน ผลผลิตจากไผ่หวานกิมซุง มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดตรังยังมีผู้ปลูกน้อยอยู่ อีกทั้งยังมีรสชาติค่อนข้างดีและเนื้อแน่น จึงเป็นที่นิยมของลูกค้า ส่วนรายได้จากการทำสวนไผ่ถึงแม้อาจจะไม่เป็นกอบเป็นกำแต่ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ พอที่จะใช้ซื้อกับข้าวหรือใช้จ่ายในครัวเรือนได้อย่างสบาย ขณะที่การดูแลค่อนข้างง่าย ขนาดน้ำท่วม หรือจมน้ำก็ไม่ตาย เพียงแค่ถ้าต้องการให้มีหน่อไม้ออกมาตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง ต้องใช้สปริงเกอร์รดน้ำซึ่งผลผลิตที่ออกมาถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว