พังงา - ผู้ช่วย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ร่วมชูป้าย ตะโกน “ประยุทธ์” ออกไป ในกิจกรรม วิ่งไล่ลุง พร้อมยืนยันไม่ใช่คนจัด ด้านตำรวจเตรียมหาตัวผู้จัด
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (12 ม.ค.) นายจิรพงศ์ มาศทอง ผู้ช่วย ส.ส.อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.พังงา และนายทวี เรืองปราชญ์ พร้อมด้วย นายสิทธิโชค ทองชุม กรรมการหอการค้าไทย ประธานโครงการพังงาแห่งความสุข กลุ่มคนรุ่นใหม่ และเหล่าอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ได้ร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ซึ่งวิ่งจากบริเวณอุทยานพระนารายณ์ตะกั่วป่า ถึง บขส.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา รวมระยะทาง 1.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการออกกำลังกาย
โดยก่อนออกวิ่ง ผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนได้นำป้ายแสดงออกทางการเมืองออกมาชู เช่น อยู่ไม่เป็น เย็นไม่พอ รอไม่ไหว เศรษฐกิจแย่ เพราะลุงอยู่ ก่อนโบกไปมา และนำมาวางเรียงพร้อมกับร่วมถ่ายรูปเพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ ก่อนจะออกวิ่ง และรวมตัวถ่ายรูปพร้อมป้าย เพื่อเป็นการแสดงออกทางการเมืองเมื่อถึงจุดหมาย ได้ร่วมกันตะโกนว่า ประยุทธ์ออกไป จำนวน 3 ครั้ง และแยกย้ายกลับ
นายจิรพงศ์ มาศทอง กล่าวว่า ในการจัดวิ่งครั้งนี้ตนเองไม่ใช่ผู้จัด และคิดว่าไม่เข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากเป็นเพียงการวิ่งออกกำลังกายและไม่ได้มีการเรียกร้องใดๆ เกี่ยวกับการเมือง ส่วนประชาชนที่มาร่วมทำกิจกรรมนั้น ส่วนใหญ่ได้รับข่าวสารจากกรุงเทพฯ แต่ไม่สะดวกที่จะไปร่วมทำกิจกรรม จึงได้เดินทางมาร่วมออกกำลังกายกันที่นี่
ด้านว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ทราบเบื้องต้นเพียงว่า เป็นเพียงการจัดกิจกรรมวิ่งออกกำลังกาย ไม่ได้มีการแจ้ง หรือขออนุญาตจัดการชุมนุม แต่ก็ได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความสงบตลอดกิจกรรม ส่วนเมื่อมีกิจกรรมแล้วจะเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่นั้น จะต้องดูในข้อกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตจัดการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ มีการชูป้ายขับไล่ เรียกร้อง มีการตะโกนประยุทธ์ออกไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง ตามลักษณะ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ประกอบกับ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ระบุว่า ผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ หรือจัดขึ้นภายหลังจากที่ผู้ยื่นคําขอได้รับหนังสือแจ้งว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ผ่อนผันกําหนดเวลา หรือเดินขบวนเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งว่าจะมีการเดินขบวน หรือไม่เลิกการชุมนุมในเวลาที่แจ้งไว้ต่อผู้รับแจ้ง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรวบรวมหลักฐานเอาไว้เพื่อสืบหาตัวผู้จัดการชุมนุม พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล เพื่อหาตัวผู้จัดการชุมนุมเข้ารับทราบข้อกล่าวหา