xs
xsm
sm
md
lg

“ไร่นายหัวหญิง” แปลงผักปลอดสารพิษกลางเมืองป่าตอง ลดขยะอินทรีย์ “ขยะแลกผัก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชื่นชม! ผู้บริหารเทศบาลเมืองป่าตอง เช่าที่ดินเอกชน 11 ไร่ ใจกลางเมืองป่าตอง ทำแปลงผักปลอดสารพิษ “ไร่นายหัวหญิง” สนับสนุนนโยบายเทศบาลเมืองป่าตอง ลดขยะอินทรีย์ที่มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณขยะวันละ 150-200 ตัน รณรงค์ให้ชาวบ้านนำขยะมาแลกผักได้




ใครจะคิดว่ากลางเมืองป่าตอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ที่ที่ดินราคาสูงเหมือนทองคำ จะมีสวนผักปลอดสารพิษ บนเนื้อที่ถึง 11 ไร่ เพราะถ้านึกถึงป่าตองแล้ว เชื่อว่าทุกคนจะมองเห็นภาพของโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ ตั้งเรียงรายตามมุมต่างๆ ทั่วทั้งเมือง


แต่วันนี้ ที่ป่าตอง เมืองแห่งการท่องเที่ยว ได้มี “ไร่นายหัวหญิง” เกิดขึ้น ด้วยการนำที่ดินถึง 11 ไร่ ที่เช่าจากเจ้าของที่ดินมาแปลงสภาพจากที่ดินว่างเปล่า เป็นสวนผักปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอมโพสที่ทำมาจากวัสดุที่เป็นเศษใบไม้ เศษผลไม้ เศษวัสดุเหลือใช้ต่างๆ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อซัปพอร์ตการลดขยะอินทรีย์ของเทศบาลเมืองป่าตอง ที่มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณขยะในเขตเทศบาลป่าตอง ที่แต่ละวันมีขยะสูงถึงวันละ 150-200 ตัน ให้ลดน้อยลง ลดการขนส่ง ลดการเผา และที่สำคัญลดค่าใช้จ่ายในการเผาขยะของเทศบาลเมืองป่าตองที่มีสูงกว่าปีละ 100 ล้านบาท


ที่เด็ดสุด...ทุกคนสามารถนำขยะประเภทขวดพลาสติก กระป๋อง เศษเหล็ก มาขายแล้วแลกเป็นผักปลอดสารพิษ สดๆ ใหม่ๆ จากไร่ได้ทุกวัน ในราคาไม่แตกต่างจากผักทั่วไปที่ขายในท้องตลาด แต่ที่นี่เราจะได้ผักปลอดสารพิษที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราอีกด้วย


เราไปดูกันว่า ไร่นายหัวหญิง เกิดขึ้นได้อย่างไรผ่านทาง น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ที่ได้นำคณะสื่อมวลชนภูเก็ตลงพื้นที่แปลงผักปลอดสารพิษของไร่นายหัวหญิง ซึ่งตั้งอยู่เยื้องกับสำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เล่าให้ฟังว่า ไร่นายหัวหญิง เกิดจากความตั้งใจของผู้บริหารเทศบาลเมืองป่าตอง ที่พยายามจะลดปริมาณขยะในเมืองป่าตองที่มีสูงถึงวันละกว่า 150-200 ตัน ที่จะต้องจัดเก็บส่งไปยังเตาเผาขยะของเทศบาลนครภูเก็ต และจะเห็นว่าขยะที่จัดเก็บในแต่ละวันนั้น กว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของขยะที่ต้องนำเข้าสู่เตาเผาขยะ มีปัญหาในเรื่องของการเก็บ การขนที่จะต้องบีบอัดทำให้ระหว่างการขนส่งบางช่วงจะมีน้ำจากขยะไหลออกมาหกเรี่ยราดบนถนน ทำให้การสัญจรของพี่น้องประชาชนมีปัญหาเกิดอุบัติเหตุ


ทางเทศบาลจึงต้องลดปริมาณขยะอินทรีย์จากต้นทาง โดยการคัดเศษอาหารหรือที่เรียกว่าข้าวหมูออกมาให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากโรงแรมในเมืองป่าตองแล้ว 20 กว่าแห่ง นำไปฝังกลบเพื่อที่จะทำเป็นปุ๋ยหมัก ส่วนเศษอาหารอื่นๆ เช่น พวกเศษผักผลไม้ที่เหลือจากการทำอาหาร รวมทั้งมะพร้าวอ่อนด้วย เนื่องจากเราเป็นเมืองชายทะเล มะพร้าวอ่อนก็จะเป็นผลไม้หรือเครื่องดื่มยอดฮิตที่จะต้องกินกันวันละหลายพันลูก เราจึงนำขยะอินทรีย์เหล่านี้มาแยกทำเป็นปุ๋ยคอมโพสด้วย


“จากการทำเป็นปุ๋ยคอมโพส เราก็มาทดลองปลูกผัก ปรากฏว่าผักที่ปลูกเติบโตสมบูรณ์สวยงามมาก เราก็เลยได้แนวคิดว่า ถ้าเราจะลดปริมาณขยะด้วยการทำปุ๋ยคอมโพสในปริมาณมากๆ เราก็ต้องใช้ปุ๋ยคอมโพสให้หมดด้วยการนำไปใช้ปลูกผักให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้มีพื้นที่กองปุ๋ยกองใหม่”


เราจึงต้องหาพื้นที่ปลูกผัก เนื่องจากเทศบาลไม่มีที่ให้ทดลองปลูกผัก จึงได้มาเช่าที่ดินของคุณนัยนา เอกวานิช เพื่อที่จะปลูกผัก โดยการเอาปุ๋ยคอมโพสที่เกิดจากการลดขยะของเทศบาลเมืองป่าตองมาใช้ แต่ติดระเบียบในเรื่องต่างๆ ทางเทศบาลไม่สามารถเช่าที่ดินตรงนี้ได้ สุดท้ายเราไม่อยากให้โครงการที่คิดไว้ต้องล่มไป คุณบรรยงค์ เก็บทรัพย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ซึ่งเป็นคนดูแลกองสาธารณสุข ก็รับมาจัดการเอง ด้วยการจ่ายค่าเช่าเอง จ้างคนมาปลูกผัก รวมถึงทำปุ๋ยคอมโพสเอง เพื่อรองรับกับแปลงผักแปลงนี้ ซึ่งการทดลองปลูกผักของเราถือว่าได้ผลดี เพราะผักงอกงามมาก


นอกจากเราลดขยะลงได้แล้ว เราก็ยังได้ให้แปลงผักแปลงนี้เป็นแรงกระตุ้นที่จะทำให้คนในพื้นที่ลดขยะอีกทางหนึ่ง ด้วยการประกาศให้คนเอาขวดพลาสติกมาแลกผักปลอดสารพิษไปรับประทาน ซึ่งตอนนี้มีคนนำขวดพลาสติกมาแลกผักอยู่ตลอด และคนที่มาซื้อผักทานเองก็มีจำนวนมากเหมือนกัน พอเราทำอย่างนี้เราก็อยากต่อยอดให้คนได้มีโอกาสทานผักทานอาหารปลอดภัย ก็เลยได้เปิดเป็นร้านอาหารขึ้นมา ขายข้าวแกง ขายขนมจีน ซึ่งผักส่วนใหญ่จะเอามาจากแปลงนี้ ยกเว้นว่าผักที่แปลงนี้ไม่มีจริงๆ เขาจึงไปหาซื้อที่ตลาด อย่างไรก็ตาม ขอเรียนเชิญทุกท่านมาดูเป็นแนวคิด ทำให้เรามีกำลังใจไปปลูกผักทานเองที่บ้าน และคิดว่าหากเจ้าของที่ดินยังให้โอกาสที่จะให้ทางเราใช้พื้นที่นี้ต่อไปเราจะเดินหน้าโครงการลดขยะอินทรีย์ต่อไป


สำหรับแปลงผักปลอดสารพิษ ไร่นายหัวหญิง ในพื้นที่ 11 ไร่นั้น เพาะปลูกผักหลายชนิด ทั้งผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักคะน้า ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักปลัง กระเจี๊ยบ มะเขือ ชะอม ผักกาดขาว มะนาว บวบ ผักสลัด ตะไคร้ และนอกจากนี้ มีการเลี้ยงปลา ทั้งปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ด้วย ซึ่งราคานั้นไม่ได้แตกต่างจากราคาผักในท้องตลาด เช่น ผักกวางตุ้ง ผักกาดเขียว กิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น แต่ผักของเราเป็นผักปลอดสารพิษ ส่วนผลผลิตนั้นมีตลอดทั้งปี มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับการเพาะปลูกในช่วงนั้น แต่รับรองว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์


น.ส.เฉลิมลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของการทำปุ๋ยคอมโพสอีกว่า สำหรับปุ๋ยคอมโพสในส่วนของกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองป่าตอง ก็ยังหมักเหมือนเดิม แต่ได้รณรงค์ให้ชาวบ้านมาเอาไปใช้ เพราะฉะนั้นปุ๋ยหมักคอมโพสที่เทศบาลทำชาวบ้านจะเอาไปใช้ได้ แต่ในส่วนของแปลงผักทางไร่จะหมักปุ๋ยใช้เอง ทั้งนี้ เพื่อต้องการสนับสนุนนโยบายของเทศบาล รณรงค์ลดขยะหรือเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการศึกษาดูงานกรณีมีเทศบาลต่างๆ มาศึกษาดูงานเรื่องการจัดการขยะของเทศบาลเมืองป่าตอง เราก็จะบอกว่า แปลงผักแปลงนี้เกิดจากการเอาปุ๋ยคอมโพสมาทำ


แปลงผักปลอดสารพิษ ไร่นายหัวหญิง นอกจากเราจะมาซื้อผัก นำขยะมาแลกเป็นผัก มาเรียนรู้การลดขยะ การทำแปลงผักปลอดสารพิษแล้ว ไร่นายหัวหญิง ยังจะเป็นจุดถ่ายรูป เช็กอินมุมสวยๆ เก๋ๆ หรือจะมารับประทานขนมจีน หรือข้าวแกงก็ยังได้






กำลังโหลดความคิดเห็น