สุราษฎร์ธานี - ปีใหม่นี้ไปเที่ยว “เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย” กันดีกว่า กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มอบของขวัญพิเศษ 4 ชั้น รับส่วนลด ลุ้นเที่ยวฟรี โปรโมชันดีๆไม่ควรมองข้าม

ปีใหม่นี้ถ้ากำลังมองหาที่เที่ยวดีๆ และยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาเที่ยวที่นี่กันเถอะ “เขื่อนรัชชประภา” หรือ “กุ้ยหลินเมืองไทย” แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายเชาวลิต วิชิระประเสริฐ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ได้เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยทุกมุม มีจุดเด่นภายในอ่างเก็บน้ำคือ กุ้ยหลินเมืองไทยที่มีความสวยงามมาก

นอกจากนั้น น้ำในเขื่อนมีสีเขียวมรกตสีสดใสไปจุดไหนก็สวยไม่วาจะเป็นวิวทิวทัศน์ หรือดอกไม้ก็สวยตระการตา และในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดของขวัญปีใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป โดยจัดโปรโมชันมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2563 สุขต่อเนื่อง 4 ชั้นให้แก่คนที่สนใจจะเดินทางมาท่องเที่ยว โดยมอบ ส่วนลด 1,000 บาท ส่วนลด 300 บาท รับฟรีสินค้าชุมชน และลุ้นเที่ยวฟรี เพียงแค่ลงทะเบียนรับสิทธิเพื่อรับส่วนลดได้ที่ WWW.EGAT.CO.TH/GIFT2020 สามารถนำมาเป็นส่วนลดค่าที่พักและสนามกอล์ฟของเขื่อนรัชชประภาได้

สำหรับที่พักของเขื่อนรัชชประภา มีจำนวน 240 ห้อง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 600-3,000 เศษ ในเทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกจองไปแล้ว 70% ส่วนเรื่องอาหารนั้นทางเขื่อนมีอาหารบริการหลากหลายเมนู เช่น แกงส้มปลากดเหลือง ปลากดคัง ปลาแรดทอด และใบเหลียงผัดไข่ ล้วนเป็นอาหารขึ้นชื่อของเขื่อนรัชชประภา

สำหรับความเป็นมาเขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่ 2 ของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” แปลว่า “Light of the Kingdom” ลักษณะเขื่อนและโรงไฟฟ้า เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง อ่างเก็บน้ำมีความจุ 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตร

โรงไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลังการผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ลานไกไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ห่างจากโรงไฟฟ้า ประมาณ 100 เมตร ทำหน้าที่ส่งพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าด้วยสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด 115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530

ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อการเพาะปลูกพืช บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง ในเขตท้องที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอพุนพิน สามารถทำนาปรังและปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดี และการกักเก็บน้ำของเขื่อนในฤดูฝน จะช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น อ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภาเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ ทุกๆ ปี กฟผ. ได้ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งเป็นจำนวนมากลงในอ่างเก็บน้ำ สามารถให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ยปีละ 300 ตัน ในฤดูแล้ง ทำให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียได้ง่าย ขณะเดียวกัน บริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาตามลำน้ำ น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนรัชชประภาจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และต้านทานการรุกล้ำของน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น ยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 400,000 คน ให้เดินทางมาเยี่ยมชมเขื่อนรัชชประภา

การเดินทางสู่เขื่อนรัชชประภา หากเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นระยะทางประมาณ 660 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ระยะทาง 66 กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปตามถนนเข้าเขื่อนอีก 14 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็มีบริการเดินรถจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพุนพิน) แล้วต่อรถรับจ้างเพื่อเข้าไปยังเขื่อนระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร





ปีใหม่นี้ถ้ากำลังมองหาที่เที่ยวดีๆ และยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาเที่ยวที่นี่กันเถอะ “เขื่อนรัชชประภา” หรือ “กุ้ยหลินเมืองไทย” แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายเชาวลิต วิชิระประเสริฐ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ได้เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยทุกมุม มีจุดเด่นภายในอ่างเก็บน้ำคือ กุ้ยหลินเมืองไทยที่มีความสวยงามมาก
นอกจากนั้น น้ำในเขื่อนมีสีเขียวมรกตสีสดใสไปจุดไหนก็สวยไม่วาจะเป็นวิวทิวทัศน์ หรือดอกไม้ก็สวยตระการตา และในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดของขวัญปีใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป โดยจัดโปรโมชันมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2563 สุขต่อเนื่อง 4 ชั้นให้แก่คนที่สนใจจะเดินทางมาท่องเที่ยว โดยมอบ ส่วนลด 1,000 บาท ส่วนลด 300 บาท รับฟรีสินค้าชุมชน และลุ้นเที่ยวฟรี เพียงแค่ลงทะเบียนรับสิทธิเพื่อรับส่วนลดได้ที่ WWW.EGAT.CO.TH/GIFT2020 สามารถนำมาเป็นส่วนลดค่าที่พักและสนามกอล์ฟของเขื่อนรัชชประภาได้
สำหรับที่พักของเขื่อนรัชชประภา มีจำนวน 240 ห้อง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 600-3,000 เศษ ในเทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกจองไปแล้ว 70% ส่วนเรื่องอาหารนั้นทางเขื่อนมีอาหารบริการหลากหลายเมนู เช่น แกงส้มปลากดเหลือง ปลากดคัง ปลาแรดทอด และใบเหลียงผัดไข่ ล้วนเป็นอาหารขึ้นชื่อของเขื่อนรัชชประภา
สำหรับความเป็นมาเขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่ 2 ของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” แปลว่า “Light of the Kingdom” ลักษณะเขื่อนและโรงไฟฟ้า เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง อ่างเก็บน้ำมีความจุ 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตร
โรงไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลังการผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ลานไกไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ห่างจากโรงไฟฟ้า ประมาณ 100 เมตร ทำหน้าที่ส่งพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าด้วยสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด 115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530
ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อการเพาะปลูกพืช บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง ในเขตท้องที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอพุนพิน สามารถทำนาปรังและปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดี และการกักเก็บน้ำของเขื่อนในฤดูฝน จะช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น อ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภาเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ ทุกๆ ปี กฟผ. ได้ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งเป็นจำนวนมากลงในอ่างเก็บน้ำ สามารถให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ยปีละ 300 ตัน ในฤดูแล้ง ทำให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียได้ง่าย ขณะเดียวกัน บริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาตามลำน้ำ น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนรัชชประภาจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และต้านทานการรุกล้ำของน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น ยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 400,000 คน ให้เดินทางมาเยี่ยมชมเขื่อนรัชชประภา
การเดินทางสู่เขื่อนรัชชประภา หากเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นระยะทางประมาณ 660 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ระยะทาง 66 กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปตามถนนเข้าเขื่อนอีก 14 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็มีบริการเดินรถจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพุนพิน) แล้วต่อรถรับจ้างเพื่อเข้าไปยังเขื่อนระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร