กระบี่ - คนร้าย ยิงถล่มบ้านแกนนำต้านโรงโม่หิน และประธานศูนย์เรียนรู้กาแฟขี้ชะมด ใน จ.กระบี่ พบหัวกระสุนตกที่บันไดบ้าน และ รอยกระสุนทะลุหลังคา รวมไม่ต่ำกว่า 5 นัด เชื่อคนร้ายต้องการข่มขู่
วันนี้ ( 29 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำทับ จ.กระบี่ ได้เข้าตรวจสอบที่ บ้านเลขที่ 170 ม.3 ต.ดินแดง อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้าน และ เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กาแฟขี้ชะมด ของ นายพิศิษฏ์ เป็ดทอง อายุ 41 ปี แกนนำต่อต้านการ อนุญาตประทานบัตร การทำเหมืองแร่ โดโลไมท์ และเป็นประธานศูนย์เรียนรู้กาแฟขี้ชะมด ในพื้นที่ ม.3 ต.ดินแดง หลังถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนขนาด 11 มม. ที่บันไดหน้าบ้าน และ มีรอยกระสุน เจาะทะลุเชิงชาย 1 รู ทะลุหลังคากระเบื้อง 1 รู ชั้น 2 พบกระเบื้องแตก1แผ่น คาดว่า คนร้ายมายืนหน้าบ้าน แล้วสาดกระสุนขึ้นไป บนบ้าน และ ห่างจากบ้าน ประมาณ 10 เมตร ที่หน้าร้านจำหน่ายสินค้า พบร่องรอยกระสุนที่บ้านอีก 1 รู และ ที่โครงหลังคามีหัวกระสุนขนาด 11 มม.ติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านไม่พบปลอกกระสุนใดๆ
สอบสวนนายพิศิษฏ์ เจ้าของบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนมาเก็บกาแฟขี้ชะมด ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ และ นอนพักบนบ้านหลังดังกล่าว เมื่อกระทั่งตกดึกเวลาประมาณ 23.00 น.คืนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ที่หน้าบ้าน แต่ตนก็ไม่กล้าลุกขึ้นมา เพราะเกรงจะได้รับอันตราย กระทั่ง ช่วงเช้าตนตื่นมาพบหัวกระสุนตกอยู่ที่บันไดบ้าน และตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยกระสุนหลายจุด บริเวณหลังคาบ้าน และเชิงชาย ที่ร้านค้าของที่ระลึก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนการขอประทานบัตรโรงโม่หินในพื้นที่ที่มีการทำประชาพิจารณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่ผ่านมา ตนและชาวบ้านก็ต่อต้านมาโดยตลอด เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในเร็วๆนี้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่อีกครั้ง เชื่อว่าเป็นชนวนของการยิงถล่มบ้านของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายมาตลอด ก่อนลงมือก่อเหตุ โดยคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า2คน ขับรถกระบะ มาจอดบนถนน จากนั้นลงมาจากรถเดินมาที่หน้าบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้าน และเดินไปยิงที่ร้านจำหน่ายสินค้าที่อยู่หน้าบ้าน รวมประมาณ 5 นัด หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขึ้นรถหลบหนีไป จากพฤติกรรมคนร้าย เชื่อว่าไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต แต่เป็นการยิงข่มขู่เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างเท่านั้น ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ ( 29 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำทับ จ.กระบี่ ได้เข้าตรวจสอบที่ บ้านเลขที่ 170 ม.3 ต.ดินแดง อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้าน และ เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กาแฟขี้ชะมด ของ นายพิศิษฏ์ เป็ดทอง อายุ 41 ปี แกนนำต่อต้านการ อนุญาตประทานบัตร การทำเหมืองแร่ โดโลไมท์ และเป็นประธานศูนย์เรียนรู้กาแฟขี้ชะมด ในพื้นที่ ม.3 ต.ดินแดง หลังถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนขนาด 11 มม. ที่บันไดหน้าบ้าน และ มีรอยกระสุน เจาะทะลุเชิงชาย 1 รู ทะลุหลังคากระเบื้อง 1 รู ชั้น 2 พบกระเบื้องแตก1แผ่น คาดว่า คนร้ายมายืนหน้าบ้าน แล้วสาดกระสุนขึ้นไป บนบ้าน และ ห่างจากบ้าน ประมาณ 10 เมตร ที่หน้าร้านจำหน่ายสินค้า พบร่องรอยกระสุนที่บ้านอีก 1 รู และ ที่โครงหลังคามีหัวกระสุนขนาด 11 มม.ติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านไม่พบปลอกกระสุนใดๆ
สอบสวนนายพิศิษฏ์ เจ้าของบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนมาเก็บกาแฟขี้ชะมด ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ และ นอนพักบนบ้านหลังดังกล่าว เมื่อกระทั่งตกดึกเวลาประมาณ 23.00 น.คืนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ที่หน้าบ้าน แต่ตนก็ไม่กล้าลุกขึ้นมา เพราะเกรงจะได้รับอันตราย กระทั่ง ช่วงเช้าตนตื่นมาพบหัวกระสุนตกอยู่ที่บันไดบ้าน และตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยกระสุนหลายจุด บริเวณหลังคาบ้าน และเชิงชาย ที่ร้านค้าของที่ระลึก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนการขอประทานบัตรโรงโม่หินในพื้นที่ที่มีการทำประชาพิจารณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่ผ่านมา ตนและชาวบ้านก็ต่อต้านมาโดยตลอด เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในเร็วๆนี้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่อีกครั้ง เชื่อว่าเป็นชนวนของการยิงถล่มบ้านของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายมาตลอด ก่อนลงมือก่อเหตุ โดยคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า2คน ขับรถกระบะ มาจอดบนถนน จากนั้นลงมาจากรถเดินมาที่หน้าบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้าน และเดินไปยิงที่ร้านจำหน่ายสินค้าที่อยู่หน้าบ้าน รวมประมาณ 5 นัด หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขึ้นรถหลบหนีไป จากพฤติกรรมคนร้าย เชื่อว่าไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต แต่เป็นการยิงข่มขู่เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างเท่านั้น ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
