ตรัง - 3 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน อ.นาโยง จ.ตรัง สามารถรณรงค์ให้ครู นักเรียน ผู้ปกครองทุกคนสวมใส่หมวกนิรภัยได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อความปลอดภัย และกำลังขยายผลให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนทั้งอำเภอ
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง พบว่า ทั้งครูผู้ดูแลเด็ก นักเรียน และผู้ปกครองทุกคน หากขับขี่รถจักรยานยนต์มาโรงเรียน หรือมาส่งบุตรหลาน จะมีการสวมหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อก) ครบแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จนถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีมากสำหรับคนทั่วไปที่ได้เห็น เนื่องจากทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเองและของคนที่รัก รวมทั้งยังเป็นการปลูกฝังวินัยด้านจราจรตั้งแต่วัยเด็กด้วย ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาหมื่นศรี ถือเป็นต้นแบบที่มีการสวมหมวกนิรภัยครบ 100 เปอร์เซ็นต์
นางธัญญา แก้วเพ็ง หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาหมื่นศรี กล่าวว่า ที่ศูนย์ฯ แห่งนี้มีครูทั้งหมด 6 คน และนักเรียน 92 คน โดยทุกคนจะสวมใส่หมวกนิรภัยครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่บ้านมาถึงโรงเรียน รวมถึงในตอนขากลับ ตลอดจนเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ มาเป็นเช่นนี้ยาวนานหลายปีแล้ว หลังจากที่ทางโรงเรียนได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อต่างๆ ทุกรูปแบบ ร่วมกับ สภ.นาโยง อบต.พื้นที่ และพ่อแม่ผู้ปกครอง ขนาดที่บางคนมีลูกแฝดและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็ยังยอมซื้อหมวกนิรภัยมาให้ลูกทั้งสองได้สวมใส่เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ของตนเองโดยตรง ที่เคยประสบอุบัติเหตุด้านจราจร ขณะเดินทางออกจากศูนย์เด็กเล็กฯ มาได้ประมาณครึ่ง กม. เพื่อที่จะกลับบ้าน โดยที่ขณะนั้นขี่รถ จยย.ไม่เร็วเพียงแค่ 40 กม./ชม. แต่จู่ๆ ก็มีลูกวัวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้า ทำให้รถของตัวเองชนเข้าอย่างแรงแล้วล้มลง จนมีบาดแผลที่บริเวณลำตัว แต่โชคดีที่วันนั้นตนสวมใส่หมวกนิรภัยศีรษะจึงไม่กระทบกระเทือนอะไร หลังจากนั้น ได้นำแนวคิดนี้มารณรงค์มาให้นักเรียนทุกคนสวมใส่หมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเดินทางไปใกล้ไกลแค่ไหนเพื่อความปลอดภัย
ด้าน ร.ต.อ.ปรีชา ศรีเมือง รองสารวัตรจราจร สภ.นาโยง พร้อมด้วย นายสหัสสวรรษ หนูเม่น ผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาตรัง ได้นำตัวอย่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาหมื่นศรี ไปขยายผลต่อยอดยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอื่นๆ ให้ทั่วทั้งอำเภอนาโยง รวมทั้งที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.ช่อง ซึ่งมีครูผู้ดูแลเด็ก 4 คน และนักเรียน 86 คน โดยการเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองมารับฟังการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนจากการขับขี่รถจักรยานยนต์
พร้อมนำเสนอภาพอุบัติเหตุจากการขับขี่รถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด หรืออันตรายจากการไม่สวมหมวกนิรภัย การเล่าประสบการณ์ของวิทยากรที่เคยรอดชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะการสวมใส่หมวกนิรภัย แต่ขาขวาขาดจนต้องใส่ขาเทียม ความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย และสิทธิความคุ้มครองดูแลรักษาตาม พ.ร.บ.ขนส่งจราจร เป็นต้น จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ของพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กเล็ก และครูผู้ดูแลเด็ก เพื่อประกาศเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลอดภัยสวมใส่หมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์
ร.ต.อ.ปรีชา ศรีเมือง รองสารวัตรจราจร สภ.นาโยง กล่าวอีกว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการนำร่องใน 4 อำเภอ คือ เมือง สิเกา วังวิเศษ และนาโยง ซึ่งจะเน้นการสร้างและปลุกจิตสำนึกให้แก่กลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่ยังจะส่งผลไปถึงกลุ่มผู้ใหญ่ อย่างเช่นพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย เปรียบเสมือนกับน้ำที่จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไป โดยเฉพาะกลุ่มเด็กตัวน้อยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จนขณะนี้สามารถรณรงค์การสวมใส่หมวกนิรภัยครบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้ 3 แห่งแล้ว และจะขยายผลต่อไปให้ครอบคลุมทั้งอำเภอนาโยง
