ชุมพร - "ค่างแว่น" แหล่งท่องเที่ยว อ.ประทิว ถูกรถชนตายทุกเดือน ล่าสุด เกิดเหตุสะเทือนใจ แม่กอดลูกน้อยดับคาถนน เผยสังเวยมาแล้วกว่า 30 ชีวิต วอนผู้เกี่ยวข้องแก้ปัญหาด้วย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถ้ำเขาพลู หมู่ 3 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าคุ้มครองค่างแว่น ที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาดังกล่าว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอำเภอด้วย โดยด้านหน้าภูเขาเป็นถนนลาดยางสายปะทิว-มาบอำมฤต เป็นถนนสายรองที่ชาวบ้านใช้เป็นทางหลักสามารถสัญจรไปยังตัวเมืองชุมพร และใช้เป็นเส้นทางผ่านขึ้นไปยัง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
ปรากฏว่า “ค่างแว่น” ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่มีอยู่จำนวนมาก อาศัยหากินอยู่บนเทือกเขาถ้ำเขาพลูที่เป็นแนวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ลงมาหากินและข้ามไปมาสองฟากถนน ถูกรถชนตายอยู่เป็นประจำ จนเป็นภาพที่สะเทือนใจแก่สายตาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวมานานแล้ว
ล่าสุด มีค่างแว่นแม่ลูก ถูกรถยนต์ชนนอนกอดกันตายอยู่บนถนนสายดังกล่าว มีชาวบ้านนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ เป็นภาพที่น่าสงสารใครเห็นแล้วต้องสลดหดหู่ใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากขึ้นอีก เนื่องจากอำเภอปะทิว ถือเป็นประตูด่านแรกของ จ.ชุมพร ก่อนจะเข้าสู่ 14 จังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะค่างแว่น เป็นหนึ่งในคำขวัญของอำเภอปะทิวที่ว่า “ประตูทักษิณ ถิ่นค่างแว่น แดนหาดทรายงาม ลือนามปะการัง ชื่อดังเขาเจดีย์"
นายดำเนิน วรพันธ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสัตว์ป่า เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยปะทิว และน้องๆ นักศึกษาชมรมอาสากู้ชีพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร ได้รณรงค์กันตลอดเวลาให้ผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาบนถนนเส้นทางนี้ให้ขับรถช้าๆ และมีป้ายกำหนดความเร็วและป้ายตรวจจับความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องนำมาติดตั้งไว้ และป้ายแสดงว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าคุ้มครองค่างแว่น เพื่อให้ขับรถกันช้าๆ
แต่ก็ไม่ได้ผลยังมีผู้ขับรถกันด้วยความเร็วตลอดเวลา จนชนค่างแว่น ตายทุกเดือน บางเดือนก็ตายหลายตัว โดยเฉพาะค่างแว่นตัวเมียที่มีลูกน้อยกอดห้อยอยู่ใต้ท้องหากถูกรถชนก็ตายทั้งแม่ทั้งลูกเป็นภาพที่สลดหดหู่อย่างมาก ล่าสุด ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก นอกจากนั้น บางตัวก็บาดเจ็บสาหัสถึงพิการต้องพาส่งไปรักษาที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า อนุบาลรักษาดูแลไปจนกว่าจะตายเพราะมันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
นายดำเนิน กล่าวว่า บนเทือกเขาถ้ำเขาพลูแห่งนี้จะมีค่างแว่นอยู่หลายฝูงรวมแล้วประมาณ 300 ตัว สัตว์ป่าเหล่านี้เขาอาศัยอยู่ในพื้นที่มาก่อนเรา ความเจริญเข้ามาภายหลัง เราจึงต้องเข้าใจสัตว์ป่าเหล่านี้ด้วย จากการเก็บข้อมูลทั้งที่ตนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และที่อาสาสมัครกับชาวบ้านถ่ายภาพส่งข้อมูลให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีค่างแว่นถูกรถชนตายบนถนนแห่งนี้แล้วกว่า 30 ตัว เฉลี่ยคือ มีค่างแว่นถูกรถชนตายทุกเดือน บางเดือนก็หลายตัว ช่วงเกิดเหตุจะเป็นตอนเช้าและบ่ายที่ค่างแว่น จะลงจากเขาข้ามถนนไปมา ตนจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดช่วยหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากเช่นนี้อีกต่อไป
โดยเฉพาะบริเวณถนนที่ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ติดกับด้านหน้าเทือกเขาที่ค่างแว่นอาศัยอยู่ ควรจะมีการตรวจจับความเร็วจริงๆ บ้างเพื่อป้องปราม ไม่ใช่มีแต่ป้ายตรวจจับความเร็วไว้แค่ขู่เท่านั้น และควรมีป้ายแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถทุกชนิดให้เห็นเด่นชัดมากกว่านี้ นอกจากนั้น ในจุดที่มีค่างแว่นเดินข้ามถนนไปมาซึ่งมีอยู่ 3-4 จุด ก็ควรจะมีการตีเส้นเหลืองแจ้งเตือนลักษณะคล้ายทางม้าลายให้เห็นเด่นชัดเหมือนกับถนนหน้าโรงเรียนต่างๆ ที่เขาทำกันด้วย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถ้ำเขาพลู หมู่ 3 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าคุ้มครองค่างแว่น ที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาดังกล่าว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอำเภอด้วย โดยด้านหน้าภูเขาเป็นถนนลาดยางสายปะทิว-มาบอำมฤต เป็นถนนสายรองที่ชาวบ้านใช้เป็นทางหลักสามารถสัญจรไปยังตัวเมืองชุมพร และใช้เป็นเส้นทางผ่านขึ้นไปยัง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
ปรากฏว่า “ค่างแว่น” ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่มีอยู่จำนวนมาก อาศัยหากินอยู่บนเทือกเขาถ้ำเขาพลูที่เป็นแนวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ลงมาหากินและข้ามไปมาสองฟากถนน ถูกรถชนตายอยู่เป็นประจำ จนเป็นภาพที่สะเทือนใจแก่สายตาชาวบ้านในละแวกดังกล่าวมานานแล้ว
ล่าสุด มีค่างแว่นแม่ลูก ถูกรถยนต์ชนนอนกอดกันตายอยู่บนถนนสายดังกล่าว มีชาวบ้านนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ เป็นภาพที่น่าสงสารใครเห็นแล้วต้องสลดหดหู่ใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากขึ้นอีก เนื่องจากอำเภอปะทิว ถือเป็นประตูด่านแรกของ จ.ชุมพร ก่อนจะเข้าสู่ 14 จังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะค่างแว่น เป็นหนึ่งในคำขวัญของอำเภอปะทิวที่ว่า “ประตูทักษิณ ถิ่นค่างแว่น แดนหาดทรายงาม ลือนามปะการัง ชื่อดังเขาเจดีย์"
นายดำเนิน วรพันธ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสัตว์ป่า เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยปะทิว และน้องๆ นักศึกษาชมรมอาสากู้ชีพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร ได้รณรงค์กันตลอดเวลาให้ผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาบนถนนเส้นทางนี้ให้ขับรถช้าๆ และมีป้ายกำหนดความเร็วและป้ายตรวจจับความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องนำมาติดตั้งไว้ และป้ายแสดงว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์ป่าคุ้มครองค่างแว่น เพื่อให้ขับรถกันช้าๆ
แต่ก็ไม่ได้ผลยังมีผู้ขับรถกันด้วยความเร็วตลอดเวลา จนชนค่างแว่น ตายทุกเดือน บางเดือนก็ตายหลายตัว โดยเฉพาะค่างแว่นตัวเมียที่มีลูกน้อยกอดห้อยอยู่ใต้ท้องหากถูกรถชนก็ตายทั้งแม่ทั้งลูกเป็นภาพที่สลดหดหู่อย่างมาก ล่าสุด ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก นอกจากนั้น บางตัวก็บาดเจ็บสาหัสถึงพิการต้องพาส่งไปรักษาที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า อนุบาลรักษาดูแลไปจนกว่าจะตายเพราะมันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
นายดำเนิน กล่าวว่า บนเทือกเขาถ้ำเขาพลูแห่งนี้จะมีค่างแว่นอยู่หลายฝูงรวมแล้วประมาณ 300 ตัว สัตว์ป่าเหล่านี้เขาอาศัยอยู่ในพื้นที่มาก่อนเรา ความเจริญเข้ามาภายหลัง เราจึงต้องเข้าใจสัตว์ป่าเหล่านี้ด้วย จากการเก็บข้อมูลทั้งที่ตนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และที่อาสาสมัครกับชาวบ้านถ่ายภาพส่งข้อมูลให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีค่างแว่นถูกรถชนตายบนถนนแห่งนี้แล้วกว่า 30 ตัว เฉลี่ยคือ มีค่างแว่นถูกรถชนตายทุกเดือน บางเดือนก็หลายตัว ช่วงเกิดเหตุจะเป็นตอนเช้าและบ่ายที่ค่างแว่น จะลงจากเขาข้ามถนนไปมา ตนจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดช่วยหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากเช่นนี้อีกต่อไป
โดยเฉพาะบริเวณถนนที่ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ติดกับด้านหน้าเทือกเขาที่ค่างแว่นอาศัยอยู่ ควรจะมีการตรวจจับความเร็วจริงๆ บ้างเพื่อป้องปราม ไม่ใช่มีแต่ป้ายตรวจจับความเร็วไว้แค่ขู่เท่านั้น และควรมีป้ายแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถทุกชนิดให้เห็นเด่นชัดมากกว่านี้ นอกจากนั้น ในจุดที่มีค่างแว่นเดินข้ามถนนไปมาซึ่งมีอยู่ 3-4 จุด ก็ควรจะมีการตีเส้นเหลืองแจ้งเตือนลักษณะคล้ายทางม้าลายให้เห็นเด่นชัดเหมือนกับถนนหน้าโรงเรียนต่างๆ ที่เขาทำกันด้วย
