xs
xsm
sm
md
lg

เตือนปีหน้าประสบภัยแล้งอย่างหนัก น้ำในเขื่อนเหลือน้อย คาดภูเก็ตกระทบหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เตือนปี 63 ประสบภัยแล้งเป็นอันดับ 3 ในรอบ 40 ปี เนื่องจากปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศมีน้อยมาก คาดส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งภาคการเกษตรและน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเค็มรุกน้ำจืด ส่วนในพื้นที่ภาคใต้เกาะภูเก็ตคาดกระทบหนัก

วันนี้ (19 ธ.ค.) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการจิตอาสาช่วยพระบิดาปฏิบัติการฝนหลวง ที่โรงแรมแก้วสมุย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายสุริยันต์ บุญญากูล เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแทนไทร์ พลหาญ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ และประชาชนจิตอาสาจาก 14 จังหวัดภาคใต้และจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และราชบุรี จำนวน 100 คน เพื่อขยายอาสาสมัครฝนหลวงให้ครอบคลุมในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ เพื่อต้องการให้จิตอาสาได้รับการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับภารกิจปฏิบัติงานฝนหลวงของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อนำไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้ประชาชนส่วนมากประกอบอาชีพด้านทางการเกษตร เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ โดยมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว เงาะ ทุเรียน และกาแฟ นอกจากนั้น ยังมีการเลี้ยงปศุสัตว์และการทำประมง


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในปีนี้ในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางมีปริมาณค่อนข้างน้อย ในส่วนของเขื่อนขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่า 30% อยู่ถึง 11 แห่ง และขนาดกลางมีอยู่ถึง 83 แห่ง ในขณะนี้ก็ถือว่ากระจายอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ด้วย ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยในปีนี้ ก็อยากจะให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกจะต้องประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่ดูแลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำเพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการเกษตร

ส่วนของการใช้น้ำอุปโภคบริโภคก็จะต้องร่วมกันในเรื่องของการรณรงค์ในเรื่องของการใช้น้ำอย่างประหยัด ในส่วนของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเอง ก็อยู่ในช่วงปิดฤดูการปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากสภาพอากาศจะไม่ค่อยเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงมากนัก ในขณะเดียวกัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีความจำเป็นในการที่จะต้องนำอากาศยานเข้าซ่อมบำรุงประจำปีเพื่อที่ให้อากาศยานมีความพร้อมใช้งานในการที่จะปฏิบัติการในฤดูถัดไปคือตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2553 ซึ่งจะต้องมีความจำเป็นในการเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงไม่น้อยกว่า 11 หน่วยปฏิบัติการกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศ

แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเราก็ยังเตรียมหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงไว้ 3 ชุดในการที่จะเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศในช่วงไหนที่สภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงเราก็จะใช้ 3 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นบินปฏิบัติการให้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดูแลพื้นที่การเกษตรบางส่วนที่มีความต้องการน้ำอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการเติมน้ำในเขื่อนที่ยังมีปริมาณน้ำน้อยอยู่ ตลอดจนเรื่องของฝุ่นละอองในอากาศในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ตลอดจนในเมืองใหญ่ทั้งหลายตอนนี้ก็เผชิญเหตุในเรื่องของฝุ่นละอองในอากาศค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาในระดับหนึ่ง หากสภาพอากาศพร้อมก็จะขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลืออย่างทันที


นายสุรสีห์ ยังระบุอีกว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่กวง เขื่อนแม่มอก และเขื่อนแควน้อย ก็ถือว่ามีปริมาณน้ำน้อย ในส่วนของพื้นที่ภาคกลางไม่ว่าเขื่อนกระเสียว เขื่อนเสลา ถือว่ามีปริมาณน้ำน้อยมาก ในส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ ที่มีปริมาณน้ำน้อยมาก รวมไปถึงเขื่อนจุฬาภรณ์ ตลอดจนในส่วนของอีสานใต้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำนางรอง เขื่อนลำแซะ เขื่อนมูลบน แถบนั้นมีปริมาณน้ำน้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น อ่างเก็บน้ำคลองสียัดก็ถือว่ามีปริมาณน้ำน้อยอยู่มาก และในขณะนี้ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตอ่างเก็บน้ำบางวาด บางเหนียวดำ และอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ถือว่ายังมีปริมาณน้ำน้อยอยู่ ซึ่งแหล่งน้ำเหล่านี้เป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญในเรื่องของการที่ผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย

“ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีระวังในการที่จะติดตามและช่วงชิงสภาพอากาศในการปฏิบัติการในการเติมน้ำให้แก่แหล่งน้ำ ซึ่งถือว่าสถานการณ์น้ำโดยรวมทั่วประเทศน่าห่วง เราต้องร่วมด้วยช่วยกันในการใช้น้ำอย่างประหยัด และพี่น้องเกษตรกรต้องวางแผนการเพาะปลูก สำหรับเดือนธันวาคมมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งไปแล้ว 11 จังหวัด ซึ่งประเทศไทยปีนี้จะประสบปัญหาภัยแล้งในอันดับที่ 3 รอบ 40 ปี” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น