xs
xsm
sm
md
lg

วิพากษ์หนัก 3 พรบ.ใหม่ “อุทยานแห่งชาติ-สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า-ป่าชุมชน” ไม่เอื้อชาวบ้านใช้ประโยชน์ป่าและทะเล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จัดเวทีใหญ่วิพากษ์ 3 พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าและในทะเล “อุทยานแห่งชาติ-สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า-ป่าชุมชน” ที่ จ.ตรัง แฉยับกฎหมายป่าไม้ฉบับใหม่ยึดที่ดินชาวบ้าน แถมอนุญาตให้ทำประมงแค่ 20 ปี ผลสรุปเสนอให้มีการทบทวนด่วน
 
ที่ห้องประชุมมูลนิธิอันดามัน จ.ตรัง คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ศูนย์ฝึกอบรมวนศาสตร์ชุมชนแห่งเอเชียแปซิฟิค เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด และชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นต่อกฎหมายป่าไม้ฉบับใหม่กับผลกระทบต่อชุมชน โดยมีการวิพากษ์ถึงข้อดีข้อเสียของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และ พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ.2562 และนำเสนอแนวทางการดำเนินการเพื่อให้มีการรับรองสิทธิชุมชน มีผู้เข้าร่วมกว่า 60 คน
 


 
นายวิโรจน์ ติปิน มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวว่า พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวในเชิงหลักการพอรับได้ เพราะ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เปิดโอกาสให้เปลี่ยนสถานะจากผู้บุกรุกเป็นผู้ที่อยู่อาศัย จากเดิมกฎหมายมองไม่เห็นชาวบ้าน กรมอุทยานยอมรับแล้วว่ามีคนอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ ประมาณ 3,000 กว่าชุมชน พื้นที่รวมกัน 5 ล้านกว่าไร่ แต่ในระดับปฏิบัติการยังต้องปรับปรุงแก้ไข ส่วน พ.ร.บ.ป่าชุมชนเปิดโอกาสประมาณ 50% ให้ประชาชนขอจัดตั้งป่าชุมชนเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่ใช่ป่าอนุรักษ์เท่านั้น ใครที่อยู่ป่าสงวนจะได้สิทธิตรงนี้
 
ในขั้นตอนการดำเนินการของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า จะมีการสำรวจที่ดินที่พี่น้องใช้ประโยชน์ทำกินและอยู่อาศัย และพื้นที่ป่าที่พี่น้องใช้ประโยชน์ เรียกว่าพื้นที่ที่ประชาชนเก็บหาทรัพยากรที่เกิดขึ้นและทดแทนได้ ถึงแม้ฟ้าเปิดนิดหน่อย แต่กระบวนการทำงานยังเป็นอุปสรรค ยังเป็นอำนาจของอธิบดี วิธีการสำรวจยังใช้มติ ครม.เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2541 พี่น้องจะถูกยึดที่ดินคืนไปส่วนหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงกับมติของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ที่รับรองคู่มือการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ กลายเป็นว่าเครื่องมือนี้ออกมาแย้งกับกฎหมายใหม่ ซึ่งบอกว่าให้สำรวจทุกแปลง แล้วขั้นตอนต่อไปค่อยไปเจรจาเรื่องความลาดชัน ถ้าพื้นที่ที่ไม่ได้สำรวจจะถูกตีความว่าเป็นพื้นที่ป่า ที่ไม่มีคนใช้ประโยชน์ นำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายในบทลงโทษ ที่จะจับกุมพี่น้อง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัส ส่วน พ.ร.บ.ป่าชุมชนจะมีการออกอนุบัญญัติประมาณ 31 เรื่อง บางเรื่องมีปัญหา บางเรื่องเป็นเรื่องที่ดี 
 


 
ด้าน นายประยงค์ ดอกลำใย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.ชาติ) กล่าวว่า ตนรับ พ.ร.บ. 3 ฉบับนี้ไม่ได้เลย เราตั้งธงว่าชาวบ้านจะต้องได้รับการรับรองสิทธิให้อยู่อาศัยทำกิน และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน สิ่งที่ทำให้เกิดความยั่งยืนคือการรับรองสิทธิให้ชุมชนบริหารจัดการที่ดิน ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ป่าชุมชน เราตั้งธงว่าชุมชนไหนก็ตามที่สามารถจัดการดูแลรักษาป่าได้อย่างยั่งยืน อยู่มาเป็น 100 ปีป่าก็ยังสมบูรณ์อยู่ สามารถจัดตั้งป่าชุมชนได้หมด ไม่เกี่ยวกับว่าอยู่ในเขตพื้นที่อะไร
 
“พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เรื่องสำรวจการถือครองที่ดิน หลักเกณฑ์ต้องทำประโยชน์ต่อเนื่อง พี่น้องที่ทำป่ายางพารา มีอาสินหลายชนิด ต้นไม้ไม่ได้เป็นแถว พอดูภาพถ่ายทางอากาศมันเป็นป่า ก็จะบอกว่าไม่มีร่องรอยทำประโยชน์ในพื้นที่ ไม่ได้รับการพิจารณา พื้นที่คดีแห้งที่เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความยังจับคนไม่ได้ ถ้าพี่น้องเอาที่ดินแปลงนั้นไปแจ้งพิกัดก็จะเจอตัวผู้กระทำผิด นอกจากไม่ได้ที่ดินแล้วก็ถูกดำเนินคดีทันที อันนี้อันตราย” นายประยงค์กล่าวและว่า
 


 
เรื่องพื้นที่ที่อาจจะอนุญาตให้เก็บหาของป่า ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องที่เก็บหาของป่า และพี่น้องประมงพื้นบ้าน กรณีทะเลถือว่าสัตว์น้ำเป็นของป่า มีการกำหนดว่าชาวประมงไปจับปลาในอุทยานทางทะเลชนิดไหน ตรงไหน เดือนไหนได้ อนุญาตให้ 20 ปี ไม่มีการต่ออายุ พูดง่ายๆ ว่าอีก 20 ปีพี่น้องไม่มีสิทธิไปจับปลาแล้ว ถ้าไปจับผิดกฎหมาย ถ้าอยากเป็นชาวประมงก็ต้องไปเลี้ยงปลากะชัง ขุดสระเลี้ยงปลา
 
นายประยงค์กล่าวอีกว่า ส่วน พ.ร.บ.ป่าชุมชนนั้นสามารถทำป่าชุมชนได้แค่ 8 ล้านไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม จากป่าสงวนทั้งหมด 48 ล้านไร่ ส่วนป่าอนุรักษ์ 80 ล้านไร่ ห้ามจัดตั้งป่าชุมชน ป่าชายเลนก็จัดตั้งป่าชุมชนไม่ได้ เพราะมีมติ ครม.กำหนดเป็นเขตอนุรักษ์ พื้นที่ป่าชุมชนที่อนุญาตให้จัดตั้งได้ใช้ประโยชน์ได้แค่ 25% ของพื้นที่ และกำลังออกกฎกระทรวงห้ามใช้ไม้ 150 ชนิด ไม้ไผ่ก็ห้ามใช้ ในขณะที่ป่าชุมชนบางแห่งมีไม้อยู่แค่ 30 ชนิด
 


 
“ดังนั้นเราต้องผลักดันให้มีการทบทวน พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับ พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 64 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 121 ต้องแก้ไขจากการอนุญาตอย่างจำกัดเป็นการรับรองสิทธิ พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 65 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 57 ต้องแก้เป็นการคุ้มครองพื้นที่ป่าชุมชน รวมถึงพื้นที่ทำประมง มิใช่จำกัดอายุแค่ 20 ปี รวมถึงต้องทบทวนมติ ครม.วันที่ 26 พ.ย.2561 เราต้องสร้างเครือข่ายให้มากขึ้น และตอนนี้เรามีสภาผู้แทนราษฎร มีกรรมาธิการฯ ซึ่งมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล อาจใช้การเข้าชื่อเสนอกฎหมายสู้กันอีกครั้งหนึ่ง อันนี้คือสิ่งที่เราต้องทำในระยะยาว” นายประยงค์กล่าว
 
ส่วน นางกันยา ปันกิติ ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า กฎหมายฉบับใหม่และมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 ทำให้เกิดปัญหาในชุมชนมากมาย เป้าหมายของการสำรวจการถือครองที่ดินน่าจะเป็นเรื่องการยึดที่ดินชาวบ้าน แปลงที่ถูกคดีเขาไม่สำรวจให้ กรณีเปลี่ยนมือที่ดิน ตัดโค่นยางพาราเพื่อปลูกใหม่หลัง พ.ศ.2557 จะถูกยึดที่ดิน ในส่วนผลของการสำรวจก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่ดินของตนซึ่งไม่เคยสำรวจตามมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 ผลการสำรวจอยู่ในประเภทที่ 2 ในประเภทอยู่หลังปี 2545 ไม่ได้ทำกินมาต่อเนื่อง อาสินไม่เต็มพื้นที่
  


 
“ทั้งที่ตนมีหลักฐานว่าได้รับทุนจากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ใน พ.ศ.2530 มีหลักการการเสียภาษี ภบท.5 พ.ศ.2537 มีอาสินเก่าแก่ในพื้นที่ และมีพยานบุคคล เจ้าหน้าที่บอกว่าดูจากภาพถ่ายทางอากาศแล้วเป็นป่า ถ้าอยู่ในประเภทนี้จะดูว่าเป็นคนยากจนยากไร้หรือไม่ ถ้าใช่จะให้ผู้ใหญ่บ้าน อบต.รับรอง ตนเข้าเกณฑ์คนยากไร้และได้รับการรับรอง แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เข้าเกณฑ์และผู้นำไม่รับรองก็ต้องสูญเสียที่ดิน” 
 
ด้าน นายอะเหร็น พระคง ประธานชมรมชาวประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง กล่าวว่า เรื่องการหาของป่า ไม่ว่าจะเป็นกุ้งหอยปูปลานั้น เขาให้หาได้ 20 ปี ในขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านไม่มีรายได้จากทางอื่น ไม่มีที่ดินทำกิน ที่ จ.ตรังมีอุทยานทางทะเล 3 แห่ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 1 แห่ง ในพื้นที่ 119 กิโลเมตร แล้วชาวประมงพื้นบ้านจะทำประมงตรงไหน ชาวประมงหลายจังหวัดจะเดือดร้อนมากเลย มันต้องแก้กฎหมาย ต้องฟังประชาชน
 


กำลังโหลดความคิดเห็น