xs
xsm
sm
md
lg

“โกฉุย” เจ้าของโรงแรมบนเกาะสมุย ฉะยับท่องเที่ยวกำลังจะตาย ค่าเงินแข็งที่มาฆาตกรรมหมู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โกฉุย” เจ้าของโรงแรมบนเกาะสมุย ฉะยับ ตัวเลขของกระทรวงท่องเที่ยวไม่ตรงกับความจริง แค่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจรัฐบาล ในขณะที่ผู้ประกอบการกำลังจะตายจากค่าเงินบาทแข็ง


นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว ในโอกาส นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ ลงพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวและพบปะกับตัวแทนผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่ โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ตลอดจน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการเอกชนด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวเนื่องกว่า 100 คน ร่วมให้การต้อนรับ

ว่า วิกฤติการท่องเที่ยวในช่วงนี้ถือ ว่า เป็นวิกฤติการท่องเที่ยวที่มีปัญหามากที่สุดในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา และไม่มีวิกฤติครั้งไหนที่สร้างความลำบากลำบนได้มากขนาดนี้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทางยุโรปไม่มีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทของไทยก็ปกติ เมื่อปัญหาในประเทศสงบ คนก็กลับเข้ามาเที่ยว แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะปัญหาเกิดขึ้นในช่วง ภาวะเศรษฐกิจของยุโรปไม่ดี ค่าเงินบาทแข็งตัว เงินบาทแข็งอย่างเดียวไม่พอ ตัวเลขสถิติของการกระทรวงท่องเที่ยว ที่นำเสนอออกมาสะท้อนไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยตังเลขของกรมการท่องเที่ยวสะท้อนว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเอาตัวเลขมากจากไหน

ถ้าเอาตัวเลขความเป็นจริงจากเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆมีไม่กี่แห่งในประเทศไทย เช่น สมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา ถ้า 4 เมืองนี้ ไม่มีนักท่องเที่ยว ก็ไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวไปอยู่ที่ไหน ก็ยังมองไม่เห็น เพราะฉะนั้นตัวเลขจำนวนของนักท่องเที่ยวที่นำเสนอออกมาภายใต้รัฐบาลนี้ก็เป็นเรื่องของการเยินยอ ตนไม่เคยเชื่อตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวเลย เพราะตัวเลขของกระทรวงบอกจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น + 2 ในขณะที่ตัวเลขของเอกชนโดยสายการบินแห่งหนึ่งระบุว่าตัวเลขเมื่อเดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นตัวเลขสดๆร้อน นักท่องเที่ยวติดลบประมาณ 77 % แล้วนักท่องเที่ยวที่กระทรวงท่องเที่ยวบอกว่าเพิ่มขึ้นมาไปอยู่ที่ไหนกันหมด ถ้าจะบอกว่านักท่องเที่ยวไม่พักโรงแรม แต่ไปพักเกสต์เฮาส์ หรือ โฮมสเตย์ แทนทำให้โรงแรมไม่มีนักท่องเที่ยวถ้าเป็นแบบนั้นก็อยากถามว่านักท่องเที่ยวไม่ออกมากินอาหารเลยเหรอ เพราะขณะนี้ร้านอาหารต่างๆก็ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แล้วนักท่องเที่ยวที่บอกว่าเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ไหนหมด

นายวิรัช ยังได้กล่าวต่อไป ตนรู้สึกเห็นใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว แต่คนของกระทรวงท่องเที่ยวจะต้องพัฒนาตัวเลขใหม่เพราะตัวเลขที่ออกมาใช้ไม่ได้ เป็นตัวเลขที่เชื่อถือไม่ได้ เช่นเดียวกับตัวเลขขอรัฐบาลที่ท่านรองสมคิด ไปพูดที่ไหนก็จะบอกว่าตัวเลข GDP โตขึ้นตลอด ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง ผลออกมา GDP ต่ำที่สุดในเอเชีย ขณะที่ที่การส่งออก ติดลบ 4 แล้วนี้เราจะหาความจริงจากใครได้


ส่วนจะบอกว่าการท่องเที่ยว ไม่เกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ แต่ความจริงแล้วค่าเงินบาทมีความสำคัญกับการท่องเที่ยวมาก และเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตนเคยถามอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เกิดอะไรขึ้นกับค่าเงิน ทำไมไม่ลดค่าเงินบาท เขาก็บอกว่ารู้ๆกันอยู่พูดกับเขาไม่รู้เรื่อง ถามว่าทำไมไม่ปลด เขาก็บอกว่าเป็นเด็กนายกฯ เด็กนอกไม่รู้มิติ ไม่รู้ความทุกข์ยากของราษฎร ตอนนี้ถ้าเป็นแบบนี้เงินบาทจะฆาตกรรมหมู่ ทำลายชีวิตท่องเที่ยว คนที่เกี่ยวข้องมากกว่า 20 ล้านคน ท่องเที่ยวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนหลายๆกลุ่ม

เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวจะต้องไปสะท้อนแรงให้ลดค่าเงินบาท ถ้าไม่ลดท่าก็ออกจากรัฐบาลจะอยู่ไปทำไมเราต้องเข้มแข็งกับประชาชน การจะไปพูดว่าเงินบาทแข็ง เพราะเงินสำรองในประเทศมากเป็นการพูดที่เข้าใจผิด เพราะมีหลายประเทศที่มีเงินสำรองในประเทศมากกว่าเรา ไม่ได้เกี่ยวกับค่าของเงิน ค่าเงินบาทของเราสูง เพราะอัตราค่าดอกเบี้ยเงินฝากเราสูง เพราะฉะนั้นจะต้องแก้ให้เงินกู้ดอกเบี้ยถูกลง ถ้าไม่แก้เชื่อได้เลยว่าตายทั้งประเทศ ฆาตกรรมหมู่เกิดขึ้นแน่นอน นี้คือสิ่งที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวจะต้องสะท้อนไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ว่าการ่องเที่ยวถ้ายังดื้ออย่างนี้ท่องเที่ยวตาย

ส่วนเรื่องของมาตรการกระตุ้นที่ผ่านมามีการไปทำมาตรการแปลก เช่น ชิชอปใช้ เสียเงินไป 2 หมื่นล้าน ตนขอเสนอวิธีที่เคยทำมาแล้ว แต่ต้องเป็นผู้ว่าท่องเที่ยวเก่งๆ ไม่ใช่วันๆวิ่งแต่นักการเมืองไม่ได้เรื่องหรอก เพราะรู้ไม่จริง ไม่เคยสัมผัส แต่ถ้าเรานำเงิน 2 หมื่นลานไปดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยใช้การบินไทย และลดราคาให้นักท่องเที่ยว หัวละ พัน เราก้จะได้นักท่องเที่ยวเข้ามา 4 หมื่นคน นอกจากจะได้นักท่องเที่ยวเข้มาแล้วเรายังได้เงินให้การบินไทยปลดหนี้ได้ด้วย เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะส่งผลดีไปสู่การท่องเที่ยวทุกกลุ่มดีกว่า ชิมชอปใช้ ที่ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะฉะนั้นท่านรัฐมนตรีจะต้องไปหามือดีมาทำงาน แต่ถ้าใช้วิธีที่ตนเสนอเชื่อว่าจะสามารถฝ่าวิกฤติไปได้ ซึ่งประสบการณ์นี้ได้มาจากสิงคโปร์ในการดึงดังนักท่องเที่ยวซึ่งประสบความสำเร็จ


กำลังโหลดความคิดเห็น