พังงา - ผู้ประกอบการเรือประมงพังงา กว่า 500 ลำ นำเรือจอดเทียบท่าหยุดจับปลา เพื่อประท้วงภาครัฐไม่ให้คำตอบว่าจะทบทวนมาตรการแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมายตามข้อเสนอของผู้ประกอบการ พร้อมเตรียมยกระดับเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีข้อเรียกร้องรวม 11 ข้อ
หลังจากผู้ประกอบการเรือประมงในพื้นที่จังหวัดพังงา กว่า 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการออกประกาศของภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งทางกลุ่มชาวประมงในจังหวัดพังงา ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อส่งต่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศ โดยมีข้อเรียกร้องรวม 11 ข้อ เช่น เรียกร้องให้หยุดออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมงเพิ่มเติมอีก ให้แก้กฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยเร็ว ให้รัฐบาลเร่งซื้อประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว ให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ชาวประมงภายในเดือนธันวาคมนี้ ให้แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง ให้หยุดการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศทันที ให้เพิ่มวันทำการประมง และให้ทบทวนแนวทางที่จะบังคับให้บริษัทจำหน่ายน้ำมันดีเซลให้แก่ชาวประมงต้องจ่ายเงินผ่านบัตรฟลีทการ์ด (Fleet CARD) ขอให้มีการทบทวนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวชาวประมงกรณีที่ถูกบังคับใช้จากกฎหมายประมงที่ไม่เป็นธรรม โดยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้ได้รับผลกระทบ
โดยขณะนี้ทางรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้แก่ผู้ประกอบการเรือประมงในจังหวัดพังงา และจังหวัดอื่นๆ ที่ประกอบกิจการการทำประมง จนทางผู้ประกอบการเรือประมงในพื้นที่ท่าเทียบเรือทับละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง ท่าเทียบเรือบ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า และท่าเทียบเรือคุระ อำเภอคุระบุรี ที่ประกอบกิจการเรือประมงกว่า 500 ลำ ได้หยุดนำเรือประมงออกไปหาปลาในทะเลตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว และจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับประมงจังหวัดอื่นต่อไป
นายบุญชู แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากที่กลุ่มชาวประมงใน 22 จังหวัด ที่ติดฝั่งทะเลทั่วประเทศออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือในการแก้กฎหมาย เนื่องจากผลจากการที่ภาครัฐได้ออกระเบียบ ประกาศ และมาตรการต่างๆ มาบังคับใช้กับชาวประมง ทำให้กระทบต่ออาชีพประมงและธุรกิจต่อเนื่องเป็นอย่างมาก จนผู้ประกอบการจำนวนมากต้องหยุดกิจการ เนื่องจากประสบภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และขาดแคลนแรงงาน แม้ไทยจะได้รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปแล้ว และภาครัฐพยายามจะแก้ปัญหา แต่ปัญหาต่างๆ ก็ยังไม่คลี่คลายและไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม
เนื่องจากติดขัดระบบราชการและการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ทั้งยังมีการออกกฎระเบียบที่สร้างปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมาอีก การยื่นหนังสือในครั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาให้ ชาวประมงทั่วประเทศก็พร้อมจะยกระดับการเรียกร้องร่วมกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ทั้งการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปร่วมชุมนุมเรียกร้องที่กระทรวงเกษตรฯ และสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 รวมทั้งการหยุดทำประมงตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา และหยุดดำเนินการกิจการทุกประเภททันที พร้อมจะไม่ให้มีการนำเข้าปลาจากที่อื่นอีกด้วย