พังงา - เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวโรมาเนียติดเกาะ หลังนายท้ายพลัดตกเรือช่วงคลื่นลมกระหน่ำ โชคดีนักท่องเที่ยวจับหางเสือพาเรือเข้าฝั่งเอง ขณะที่นายท้ายเรือว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งปลอดภัยเช่นกัน
นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา พร้อมด้วย นายไกรศร อักษร หน.สายตรวจ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ด.ต.กิติพศ เรืองแก้ว ด.ต.บุญณรงค์ เพชรที่วัง ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยว) ตำรวจ สภ.เมืองพังงา ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวโรมาเนีย จำนวน 3 คน หลังจากได้รับแจ้งว่า เรือติดหล่มอยู่บนเกาะรายาหริ่ง หมู่ 11 ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
จากการเข้าช่วยเหลือ พบ Mr.Luca Maihai ชาวโรมาเนีย อายุ 25 ปี Mrs.Alina Nicoleta ชาวโรมาเนีย อายุ 24 ปี Mr.Ion vlad ghinea ชาวโรมาเนีย อายุ 30 ปี และนายสุขสันต์ วาหะรักษ์ อายุ 33 ปี นายท้ายเรือชิลมีย์ ซึ่งเป็นเรือหัวโทงให้บริการท่องเที่ยว

สอบถามทราบว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน ขึ้นเรือจากท่าเรือบ้านกลาง หมู่ 11 ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อนำเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ขณะแล่นเรือในทะเลบริเวณเกาะทะลุอยู่นั้น มีกระแสลมพัดอย่างรุนแรงทำให้ นายสุขสันต์ นายท้ายเรือลำดังกล่าวพลัดตกน้ำ และเรือโคลงจนน้ำเข้าเรือ ขณะที่นักท่องเที่ยวรายหนึ่งได้ถือหางเรือพาเข้าฝั่งบริเวณเกาะรายาหริ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร อย่างปลอดภัย
โดยมี นายสุขสันต์ นายท้ายเรือว่ายน้ำตามเข้าฝั่งได้เช่นกัน ต่อมานักท่องเที่ยวได้ส่งโลเกชันเข้าโรงแรมที่พักในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งพนักงานโรงแรมได้แจ้งผ่าน 1155 สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว จนเจ้าหน้าที่ได้ประสานทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเข้าบนฝั่ง บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จนสำเร็จ

โดย ด.ต.กิติพศ เรืองแก้ว ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยว) กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากโรงแรมซึ่งเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน โดยนักท่องเที่ยวได้แชร์โลเกชันผ่านพนักงานโรงแรม จนสามารถทราบที่อยู่ชัดเจน จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานแหงชาติอ่าวพังงา เข้าช่วยเหลือจนกลับเข้าฝั่งได้ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวส่งยังโรงแรมที่พักต่อไป
ส่วน นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบใบอนุญาตเรือและใบนายท้าย พร้อมสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น พบว่า เกิดจากเหตุสุดวิสัย เนื่องจากช่วงนี้มีกระแสลมพัดแรงในพื้นที่ทั้งบนฝั่งและในทะเล ดังนั้น ขอให้นายท้ายเรือที่ให้บริการท่องเที่ยวตรวจสอบสภาพอากาศ และขอให้ปฏิเสธการนำเที่ยวในช่วงใกล้มืดค่ำ

นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา พร้อมด้วย นายไกรศร อักษร หน.สายตรวจ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ด.ต.กิติพศ เรืองแก้ว ด.ต.บุญณรงค์ เพชรที่วัง ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยว) ตำรวจ สภ.เมืองพังงา ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวโรมาเนีย จำนวน 3 คน หลังจากได้รับแจ้งว่า เรือติดหล่มอยู่บนเกาะรายาหริ่ง หมู่ 11 ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
จากการเข้าช่วยเหลือ พบ Mr.Luca Maihai ชาวโรมาเนีย อายุ 25 ปี Mrs.Alina Nicoleta ชาวโรมาเนีย อายุ 24 ปี Mr.Ion vlad ghinea ชาวโรมาเนีย อายุ 30 ปี และนายสุขสันต์ วาหะรักษ์ อายุ 33 ปี นายท้ายเรือชิลมีย์ ซึ่งเป็นเรือหัวโทงให้บริการท่องเที่ยว
สอบถามทราบว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน ขึ้นเรือจากท่าเรือบ้านกลาง หมู่ 11 ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อนำเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ขณะแล่นเรือในทะเลบริเวณเกาะทะลุอยู่นั้น มีกระแสลมพัดอย่างรุนแรงทำให้ นายสุขสันต์ นายท้ายเรือลำดังกล่าวพลัดตกน้ำ และเรือโคลงจนน้ำเข้าเรือ ขณะที่นักท่องเที่ยวรายหนึ่งได้ถือหางเรือพาเข้าฝั่งบริเวณเกาะรายาหริ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร อย่างปลอดภัย
โดยมี นายสุขสันต์ นายท้ายเรือว่ายน้ำตามเข้าฝั่งได้เช่นกัน ต่อมานักท่องเที่ยวได้ส่งโลเกชันเข้าโรงแรมที่พักในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งพนักงานโรงแรมได้แจ้งผ่าน 1155 สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว จนเจ้าหน้าที่ได้ประสานทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเข้าบนฝั่ง บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จนสำเร็จ
โดย ด.ต.กิติพศ เรืองแก้ว ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยว) กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากโรงแรมซึ่งเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน โดยนักท่องเที่ยวได้แชร์โลเกชันผ่านพนักงานโรงแรม จนสามารถทราบที่อยู่ชัดเจน จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานแหงชาติอ่าวพังงา เข้าช่วยเหลือจนกลับเข้าฝั่งได้ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวส่งยังโรงแรมที่พักต่อไป
ส่วน นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบใบอนุญาตเรือและใบนายท้าย พร้อมสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น พบว่า เกิดจากเหตุสุดวิสัย เนื่องจากช่วงนี้มีกระแสลมพัดแรงในพื้นที่ทั้งบนฝั่งและในทะเล ดังนั้น ขอให้นายท้ายเรือที่ให้บริการท่องเที่ยวตรวจสอบสภาพอากาศ และขอให้ปฏิเสธการนำเที่ยวในช่วงใกล้มืดค่ำ