xs
xsm
sm
md
lg

ต้องอุดรูรั่ว! นักท่องเที่ยวจมน้ำตาย หลังพบปี 62 ยอดพุ่งดับ 22 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อุดรูรั่ว! นักท่องเที่ยวจมน้ำตาย ปี 62 ยอดพุ่ง 22 ราย พบจมน้ำชายหาดดับ 16 ราย ส่วนที่เหลือเกิดจากการดำน้ำตื้น Snorkeling 4 ราย ดำน้ำลึก 1 ราย อีก 1 รายดับคาสระน้ำโรงแรม ขณะที่สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย


นักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตบริเวณชายหาดเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม มีอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเกิดขึ้นจำนวนมาก มีทั้งที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้ทัน และช่วยเหลือไม่ได้ จนเป็นเหตุให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตจำนวนมาก และจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่เรื่องของการทำลายความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่หลายฝ่ายมองว่า เที่ยวทะเลภูเก็ตไม่ปลอดภัย แล้วอะไรเป็นสาเหตุทำให้นักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต


ล่าสุด พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 นายวิวัฒน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต นายจรูญ แก้วมุกดากุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายประสิทธิ์ โยธารักษ์ ผู้อำนวยการกองกิจการขนส่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันและลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางทะเลขึ้น เพื่อเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวให้กลับคืนมา โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต


ทั้งนี้ ในการประชุมได้นำเสนอข้อมูล สถิติการจมน้ำเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาติต่างๆ พบว่า ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต 19 ราย ส่วนปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตแล้ว 22 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จมน้ำเสียชีวิตจากการลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต จำนวน 16 ราย เสียชีวิตจากการดำน้ำตื้น หรือ Snorkeling 4 ราย เสียชีวิตจากการดำน้ำลึก 1 ราย และเสียชีวิตจากการจมน้ำในสระน้ำของโรงแรม 1 ราย โดยเฉพาะในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีนักท่องเที่ยวจมน้ำสูงถึง 5 ราย ส่วนนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนมาก


พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ปัญหานักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ภูเก็ต แต่เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากทำให้สถิติการเสียชีวิตมีสูง จึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการในการป้องกันเพื่ออุดรู่รัวดังกล่าว ซึ่งสาเหตุของนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตมีจากหลายสาเหตุ


ทั้งเกิดจากความประมาทของตัวนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนธงแดงลงไปเล่นน้ำ รวมทั้งไปเล่นน้ำในจุดที่ห้ามเล่น ไปเล่นน้ำในจุดที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล หรือลงเล่นน้ำในช่วงกลางคืน และเล่นน้ำขณะมึนเมา เจ้าหน้าที่ห้ามแล้วแต่ยังฝ่าฝืน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องดูแล และหามาตรการในการแก้ไขให้ได้ผลมาก เช่น สัญลักษณ์เตือนห้ามเล่นน้ำในบริเวณต้องห้ามจะต้องทำเป็นสากล บางคนไม่รับรับรู้ แต่บางคนก็ดื้อ จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกันเพื่อง่ายต่อการควบคุม และต้องมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวตั้งแต่อยู่ในห้องพักเพื่อให้เกิดการรับรู้ที่แท้จริง


พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในการดูแลนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดทราบว่าก่อนหน้านี้ ทาง อบจ.ภูเก็ต เป็นหน่วยงานจัดจ้างเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด แต่หลังจากนั้นได้มีการแบ่งงานไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล ซึ่งแต่ละท้องถิ่นมีศักยภาพในการดูแลที่ไม่เหมือนกัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลดูว่า การจ้างโดย อบจ. กับท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นประสิทธิภาพในการทำงานแต่งต่างกันอย่างไร เพราะคนที่จะทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยตามชายหาดหรือในทะเลจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องกลับไปทบทวน


ส่วนการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะกลุ่มที่ดูแลนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำนั้น ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 จะมอบหมายให้ ศรชล.ภาค 3 เข้ามามีส่วนร่วมในการอบรมแนะนำการดำน้ำที่ถูกวิธี เนื่องจากเป็นชุดที่มีความชำนาญเฉพาะทางน่าจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้


ขณะที่ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งกำชับและมอบหมายให้เข้มงวดในเรื่องของมาตรการความปลอดภัยในทุกด้าน รวมถึงควบคุมและดูแลพร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการนำเที่ยว ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบอุปกรณ์นำเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งอุปกรณ์ดำน้ำ ครูฝึกและผู้นำเที่ยวต้องมีความพร้อมและมีความชำนาญในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นมาตรฐานสากล ที่นักท่องเที่ยวให้ความเชื่อมั่นและเลือกท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น