สุราษฎร์ธานี - “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยันเตรียมประกาศใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป คาดอนาคตสดใส
เมื่อเวลา 10.30 น วันนี้ (24 พ.ย. ) ที่โรงแรมบรรจงบุรี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ "B10 พลิกโฉมปาล์มน้ำมัน" โดยมีผู้ร่วมเสวนาดังนี้ นายวัฒนศักย์ เสือเอื่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นายกฤษดา ชวนะนันท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอดีตนายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวไบโอเซล จำกัด และนายณภัคธร ชัยสงคราม นายกสมาคมการค้าลานเทปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี และประธานสมาพันธ์ลานเทปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย มี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ โดยได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคึกคัก
โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แถลงนโยบาย "B10 น้ำมันปาล์มดิบ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก" ระบุว่า กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศให้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน สร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบของประเทศ
สามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 2 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดของประเทศ หรือประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันให้มีราคาสูงขึ้น รวมทั้งลดปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 และยังประหยัดการนำเข้าน้ำมันได้ถึงประมาณ 1.8 ล้านลิตรต่อวัน นอกจากนั้น ยังเป็นการกระตุ้นราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันในประเทศขยับราคาอีกด้วย