นราธิวาส - “พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ” รอง ผบช.ภาค 9 แถลงจับยาบ้าล็อตใหญ่ ระบุเจ้าของยังล่องหน แต่ยันเจ้าหน้าที่พบใช้หลักฐานปลอมซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดต่อเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่บริเวณด้านหน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภาค 9, พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รอง ผวจ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 1,982,000 เม็ด จากโกดังเลขที่ 15 ซอยพัทลุง ถนนสุริยะประดิษฐ์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส และการตรวจยึดใบกระท่อมสด จำนวน 1,786 มัด รวมน้ำหนัก 320 กิโลกรัม
พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า สำหรับยาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดจากการขยายผลจับกุม นายมานิตย์ ปรางจันทร์ ชาว จ.พัทลุง ที่เจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมยาบ้า จำนวน 600,000 เม็ด ในช่วงวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา และสืบทราบว่า ยาบ้าล็อตดังกล่าวยังคงหลงเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง โดยเจ้าของจะมีการนำส่งให้กับเอเยนต์ ยาบ้าล็อตนี้เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าซุกซ่อนอยู่ภายในโกดังดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการตรวจยึด และจากการขยายผลจากชื่อเล่น และเบอร์โทรศัพท์มือถือที่เขียนไว้บนกระสอบ ทั้งผู้รับและเจ้าของพบว่ามีการใช้พาสปอร์ตปลอมไปซื้อซิมโทรศัพท์ มาใช้ในการประสานงานในการค้ายาเสพติด ซึ่งทั้ง 2 เบอร์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเจ้าของได้ปิดโทรศัพท์
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภาค 9 ยังได้กล่าวถึงกรณีการตรวจยึดใบกระท่อมสด จำนวน 1,786 มัด น้ำหนัก 320 กิโลกรัมนั้น เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับการตรวจยึดยาบ้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีรถยนต์เก๋งบรรจุใบกระท่อมสดเพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอย ที่บริเวณหน้าค่ายกัลยาณิวัฒนา ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส จนกระทั่งมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ขพ 4243 สงขลา ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายฉกรรจ์ที่ขับรถยนต์เก๋งได้ขับรถยนต์ชนแผงกั้นจุดตรวจ โดยหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปจนมุมที่หมู่บ้านทุ่งบัว หมู่ 9 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส พร้อมทั้งได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าป่ารกทึบไป
ต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า มีใบกระท่อมสดห่อด้วยพลาสติกสีขาวขุ่นแล้วรัดด้วยยาง จำนวน 1,786 มัด ที่ซุกซ่อนไว้ภายในห้องโดยสาร โดยเจ้าของรถได้ถอดเอาเบาะนั่งด้านหลังออก และมีเอกสารหลักฐานระบุว่า นางวรรณา ดำริห์ เป็นเจ้าของรถ ส่วนคนขับมีบัตรประชาชนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ ทราบชื่อคือ นายเปาซี มาดอ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลติดตามตัวบุคคลทั้ง 2 แล้ว แต่ปรากฏว่าได้หลบหนี ส่วนจะเป็นขบวนการค้ายาเสพติด เกี่ยวข้องภัยแทรกซ้อนหรือ ท่น้ำเลี้ยงกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่นั้น ยังต้องตรวจสอบขยายผล และรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด แต่ยังไม่ระบุ อย่างไรก็ตาม หากเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภาค 9 ได้แถลงข่าวทิ้งท้ายว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ทุกครั้ง มักเกิดเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ เหมือนลักษณะมีการตอบโต้การจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้มีการสั่งกำชับเป็นพิเศษไปในทุกพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่ และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคล เพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นได้
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ 2 ล้านเม็ด! ตร.นราธิวาสยึดยาบ้าล็อตใหญ่มูลค่า 144 ล้านบาท
