ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตึกถล่มขณะก่องสร้าง ริมถนนเทพกระษัตรีขาเข้าเมืองภูเก็ต ทับคนงานขณะกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเที่ยง เสียชีวิต 7 รายเจ้าหน้าที่ทยอยนำศพออกจากซากอาคาร ส่วนสาเหตุคาดเสารับน้ำหนักไม่ไหว พบก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาต
จากกรณีเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดเหตุอาคารซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านพอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บริเวณริมถนนเทพกระษัตรีขาเข้าเมืองภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พังถล่มลงทับคนงาน จำนวน 9 คน ขณะกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเที่ยวบริเวณใต้อาคารที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นมีคนงานวิ่งหนีออกจากอาคารที่กำลังถล่มได้ 2 คน ส่วนที่เหลืออีก 7 คน ติดอยู่ใต้แผ่นพื้นซีเมนต์ที่คาดว่าเป็นแผ่นพื้นชั้น 2 ของอาคารที่ถล่มลงมาทั้งอาคาร
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม รวมทั้งทีมแพทย์และพยาบาล รุดเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด
จากการตรวจสอบ พบว่า การช่วยเหลือคนงานทั้ง 7 ราย ทำได้ด้วยความลำบาก เนื่องจากแผ่นพื้นปูนที่ถล่มลงมาทับเป็นพื้นหนาและถล่มลงมาทั้งแผ่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือในการเจาะเพื่อตรวจสอบหาผู้เสียชีวิต และตรวจสอบสัญญาณชีพของคนงานที่ติดอยู่ใต้แผ่นปูนก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 7 รายไม่มีสัญญาณชีพ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือในการตัดแยกแผ่นพื้นออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อนำออกจากจุดที่เกิดเหตุ เพื่อกู้ร่างคนงานออกมา
โดยขณะนี้สามารถนำร่างของคนงานที่เสียชีวิตออกมาได้แล้ว จำนวน 3 ราย เป็นชาวพม่า 1 ราย และคนไทย 2 ราย ส่วนคนงานที่เหลือยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในการนำร่างออกมาจากซากอาคาร ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้มี 2 ราย คือ นายจตุวิทย์ หมวดสิงห์ และนางเมียว เมียว ยี ชาวพม่า ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร ในเบื้องต้น คาดว่า 7 คน เป็นคนไทย 7 คน พม่า 3 คน ส่วนสาเหตุยังไม่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ทราบว่าอาคารดังกล่าวก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มาพบว่าก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาตจึงได้สั่งระงับการก่อสร้างไว้ และจากการตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตร มีเสารองรับ 6 ต้น ซึ่งคาดว่าเสาอาจจะไม่สามารถรองรับแผ่นพื้นที่มีน้ำหนักมากได้จึงทำให้พังถล่มลงมา
นายวรวุฒิ ทรงยก นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า อาคารที่เกิดเหตุยังไม่ได้รับอนุญาตในการก่อสร้างจากเทศบาล ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างอาคารหลายอาคาร รวมทั้งอาคารลักษณะปั๊มน้ำมัน จึงได้สั่งให้มีการระงับการก่อสร้างไปก่อน เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ไปยื่นเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไมมีการยื่นขออนุญาตแต่อย่างใด จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นในวันนี้ หลังจากนี้ทางเทศบาลก็จะต้องมาตรวจสอบว่าอาคารดังกล่าวก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่
ส่วนพื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นท่าทราย หรือสถานที่จำหน่ายหินทราย ของเอกชนรายหนึ่ง หลังเลิกกิจการก็มาปรับพื้นที่เพื่อที่จะสร้างปั๊มน้ำมัน และอาคารอื่นแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตให้ถูกต้อง
จากกรณีเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดเหตุอาคารซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านพอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บริเวณริมถนนเทพกระษัตรีขาเข้าเมืองภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พังถล่มลงทับคนงาน จำนวน 9 คน ขณะกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเที่ยวบริเวณใต้อาคารที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นมีคนงานวิ่งหนีออกจากอาคารที่กำลังถล่มได้ 2 คน ส่วนที่เหลืออีก 7 คน ติดอยู่ใต้แผ่นพื้นซีเมนต์ที่คาดว่าเป็นแผ่นพื้นชั้น 2 ของอาคารที่ถล่มลงมาทั้งอาคาร
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม รวมทั้งทีมแพทย์และพยาบาล รุดเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด
จากการตรวจสอบ พบว่า การช่วยเหลือคนงานทั้ง 7 ราย ทำได้ด้วยความลำบาก เนื่องจากแผ่นพื้นปูนที่ถล่มลงมาทับเป็นพื้นหนาและถล่มลงมาทั้งแผ่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือในการเจาะเพื่อตรวจสอบหาผู้เสียชีวิต และตรวจสอบสัญญาณชีพของคนงานที่ติดอยู่ใต้แผ่นปูนก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 7 รายไม่มีสัญญาณชีพ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือในการตัดแยกแผ่นพื้นออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อนำออกจากจุดที่เกิดเหตุ เพื่อกู้ร่างคนงานออกมา
โดยขณะนี้สามารถนำร่างของคนงานที่เสียชีวิตออกมาได้แล้ว จำนวน 3 ราย เป็นชาวพม่า 1 ราย และคนไทย 2 ราย ส่วนคนงานที่เหลือยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในการนำร่างออกมาจากซากอาคาร ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้มี 2 ราย คือ นายจตุวิทย์ หมวดสิงห์ และนางเมียว เมียว ยี ชาวพม่า ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร ในเบื้องต้น คาดว่า 7 คน เป็นคนไทย 7 คน พม่า 3 คน ส่วนสาเหตุยังไม่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ทราบว่าอาคารดังกล่าวก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มาพบว่าก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาตจึงได้สั่งระงับการก่อสร้างไว้ และจากการตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตร มีเสารองรับ 6 ต้น ซึ่งคาดว่าเสาอาจจะไม่สามารถรองรับแผ่นพื้นที่มีน้ำหนักมากได้จึงทำให้พังถล่มลงมา
นายวรวุฒิ ทรงยก นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า อาคารที่เกิดเหตุยังไม่ได้รับอนุญาตในการก่อสร้างจากเทศบาล ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างอาคารหลายอาคาร รวมทั้งอาคารลักษณะปั๊มน้ำมัน จึงได้สั่งให้มีการระงับการก่อสร้างไปก่อน เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ไปยื่นเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไมมีการยื่นขออนุญาตแต่อย่างใด จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นในวันนี้ หลังจากนี้ทางเทศบาลก็จะต้องมาตรวจสอบว่าอาคารดังกล่าวก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่
ส่วนพื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นท่าทราย หรือสถานที่จำหน่ายหินทราย ของเอกชนรายหนึ่ง หลังเลิกกิจการก็มาปรับพื้นที่เพื่อที่จะสร้างปั๊มน้ำมัน และอาคารอื่นแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตให้ถูกต้อง
