ตรัง - เกษตรกรชาวตรังโค่นต้นปาล์มหันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอม ตัดขายได้ทั้งปี ราคาไม่เคยตก และตลาดต้องการสูง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว จนพ่อค้าแม่ค้าต้องแย่งกันซื้อ
วันนี้ (20 พ.ย.) นางกัญญา ถ่ายย้วน อายุ 62 ปี เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันรายใหญ่ในพื้นที่ ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ได้แบ่งพื้นที่จากการปลูกปาล์มน้ำมัน 17 ไร่ เพื่อนำมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทนรวมกว่า 600 ต้น ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งจากในพื้นที่และจากจังหวัดแหล่งท่องเที่ยว เช่น กระบี่ ภูเก็ต เดินทางมาซื้อเป็นจำนวนมาก โดยขายในราคาลูกละ 8-10 บาท สำหรับลูกค้าขาประจำและขาจร
แต่ผลผลิตที่มียังไม่เพียงพอจำหน่าย เนื่องจากความต้องการมะพร้าวน้ำหอมมีเป็นจำนวนมากตลอดเวลา ยิ่งขณะนี้ภาคใต้ได้เข้าสู่ช่วงไฮซีซัน หรือเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว จึงเริ่มมีชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้มะพร้าวน้ำหอมมีแนวโน้มขายดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ นางกัญญา ถ่ายย้วน ได้ลงมือปลูกมะพร้าวน้ำหอมมาแล้วประมาณ 4 ปี และแบ่งโซนตัดขายทุกสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 500-600 ลูก ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะอยู่ในจังหวัดตรัง และจังหวัดท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยตัดขายส่งในราคาลูกละ 10 บาท แต่หากผู้ซื้อนำคนมาตัดเองถึงสวน ก็จะขายส่งในราคาลูกละ 8 บาท ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าสั่งจองเข้ามาตลอด ชนิดมีเท่าไรก็ไม่พอขาย เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดสูง
“ส่วนสาเหตุที่ตนเองที่หันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอม แทนปาล์มน้ำมันของเดิม เนื่องจากอยากทำสวนเกษตรแบบผสมผสานเอาไว้กินยามแก่ อีกทั้งยังมองว่าผลผลิตจากมะพร้าวน้ำหอม ได้ดีกว่าปาล์มน้ำมัน และตัดขายได้ทั้งปี โดยราคาไม่เคยตก” นางกัญญา กล่าว
ด้าน นายอนุรักษ์ ลูกหวาย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อมะพร้าวน้ำหอม กล่าวว่า ตนเองได้ตระเวนหาซื้อมะพร้าวน้ำหอมไปทั่วในหลายจังหวัด เพราะค่อนข้างจะหายาก และแย่งกันซื้อกับพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นๆ เพื่อนำไปขายที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่โดยส่วนตัวจะเน้นขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะได้ราคาดีกว่า
ทั้งนี้ หากอยู่บนฝั่งจะขายมะพร้าวน้ำหอมให้แก่คนไทยในราคาลูกละ 20-25 บาท และชาวต่างชาติ ลูกละ 30-35 บาท แต่หากเร่ขายไปตามท่าเรือต่างๆ ที่มีผู้คนขึ้นลงจะมีราคาลูกละ 35-40 บาท และหากนำมะพร้าวน้ำหอมลงไปขายบนเกาะ จะขายได้ราคาดีลูกละ 50-60 บาท
