xs
xsm
sm
md
lg

ตายาย 5 แผ่นดิน! อำเภอท่าแพ ลงเยี่ยมคุณตา-ยายอายุเกิน 100 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
สตูล - ข้าราชการอำเภอท่าแพ เยี่ยม 2 ตายายทวดอายุกว่า 100 ปี ที่ยังมีสุภาพแข็งแรง ร่าเริง เป็นผู้อยู่มานาน 5 แผ่นดิน พบเคล็ดลับสุขภาพดีและเป็นแบบอย่างแก่บุตรหลาน

วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ ต.ท่าเรือ อ.ท่าแพ จ.สตูล มี 6 หมู่บ้าน มีผู้สูงอายุทั้งหมด 540 คน ประกอบด้วย ผู้สูงอายุที่มีอายุกว่า 100 ปี จำนวน 2 ราย คือ นายเหม แดงเหม อายุ 102 ปี และนางดี เอี้ยวหีด อายุ 103 ปี เป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ซึ่งยังมีสุขภาพดีตามวัย โอกาสนี้ ทางอำเภอท่าแพ โดย นายยงยุทธ ถนอมศรีมงคล นายอำเภอท่าแพ นายอาทิตย์ วงมุสิก ปลัดอาวุโสอำเภอท่าแพ และนายบาเสด ยาพระจันทร์ นายก อบต.ท่าเรือ พร้อมด้วย นายบัณฑิต เลขะกุล ปลัด อบต.ท่าเรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เดินทางเข้าเยี่ยมสอบถามสารทุกข์สุกดิบ สร้างกำลังใจให้แก่บุตรหลานผู้ดูแลผู้สูงอายุ พร้อมกันนี้ ทาง อบต.ท่าเรือ ได้เก็บประวัติผู้สูงอายุในด้านการใช้ชีวิตไว้ด้วย

ด้าน นายเหม แดงเหม อายุ 102 ปี เกิด พ.ศ.2460 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แต่งงานมีบุตร 3 คน หลาน 14 คน เหลน 33 คน ลื่อ 15 คน โดยประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่นา ปลูกผักกินเอง จึงทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ สมัยที่ยังเป็นหนุ่มๆ ก็ไม่ได้ออกกำลังกายที่เป็นแบบแผน เพราะสมัยก่อนนั้นไม่มีที่ให้ออกกำลังกาย ไม่มีลานกีฬาเหมือนสมัยนี้ แต่คุณตาก็ได้ใช้กำลังจากการเดิน ทำไร่ทำนา ขุดดิน ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ทุ่งนาและอากาศที่บริสุทธิ์ บ้านที่พักอาศัยเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงลมพัดเย็นสบายตลอดปี ปัจจุบัน คุณตามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเดินบริเวณบ้าน ลุก นั่งด้วยตนเองได้โดยใช้ไม้เท้าช่วยพยุง

การรับประทานอาหาร คุณตาเหม รับประทานอาหารพื้นบ้านทั่วไป กินปู กินปลา กินผัก เป็นหลัก และชอบทานผักสดมากซึ่งจะต้องมีทุกมื้ออาหารที่สำคัญผักจะเป็นผักที่ปลูกเองของลูกหลานจะปลอดสารพิษ เพราะรู้สึกว่าการทานปลาและผักทำให้สบายเนื้อสบายตัวเบาท้อง กินง่าย เคี้ยวง่ายและยังย่อยง่ายไม่แน่นอึดอัดท้อง ส่วนอาหารจำพวกเนื้อ ไก่ อาหารมันและหวาน คุณตาไม่รับประทานมาประมาณเกือบ 30 ปีแล้ว รสชาติของอาหารก็จะกินรสจืด เพราะป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานอีกด้วย
 


 
นายรอสิด เตาวะโต อายุ 66 ปี บุตรเขย กล่าวว่า ในสมัยก่อนคุณตาได้เป็นส่วนหนึ่งในการบุกเบิกถนนในหมู่บ้านสายป่าเสม็ด-แป-ระใต้ และเข้าร่วมกิจกรรมในหมู่บ้านบ่อยครั้ง เป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่ดีงาม มีจิตใจเมตตา กรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากและมีความเดือดร้อน คุณตาไม่มีหนี้สินใดๆ และได้สอนลูกหลานในเรื่องของการอดออม การประหยัด และอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

นอกจากนี้ คณะยังเดินทางไปเยี่ยม นางดี เอี้ยวหีด อายุ 103 ปี เกิด พ.ศ.2459 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เช่นกัน เดิมยายดี เป็นคนกระแสสินธุ์ จ.สงขลา มีบุตร 5 คน สามียายดีเสียชีวิตเมื่อบุตรคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.4 ทำให้ยายดีต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวดูแลลูกตามลำพัง ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชผักสวนครัวและผลไม้เป็นอาชีพ ปัจจุบันบุตรสาวคนที่ 2 และ 3 เป็นผู้ดูแล โดยยายดียังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถเดินรอบบ้านได้ ไม่มีโรคประจำตัว ระบบการได้ยินยังปกติสามารถพูดโต้ตอบได้

ด้าน นางศรีโสภาค เอี้ยวหีด ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่ 2 ของยายดี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่แม่ยังมีสุขภาพแข็งแรง โดยตนกับพี่สาวคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแล เยี่ยมเยียน และมอบสิ่งของมากมาย เช่น อำเภอท่าแพ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล และศูนย์จัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จ.ยะลา เป็นต้น

ทางด้านอารมณ์ของยายดี บุตรสาวกล่าวว่า ยายดีเป็นคนใจดี ไม่ค่อยเครียด ถ้ามีเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ยายดี จะมีวิธีจัดการกับความเครียดโดยการปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิอยู่เสมอ จากชีวิตประจำวันที่คุณยายได้ไปทำบุญและช่วยงานที่วัดเป็นประจำ จึงทำให้คุณยายเป็นที่นับถือของคนในชุมชน มีจิตใจเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนบ้าน ยายดีได้ใช้ชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ อยู่อย่างพอเพียง ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรทชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เช่นเดียวกับ คุณตาเหม
 


 
ทั้งนี้ คุณตาและคุณยายทั้ง 2 ท่าน เคยเล่าให้บุตรหลานฟังว่า สมัยตนเป็นเด็กก็อยู่ในยุคสงครามโลกที่มีทหารญี่ปุ่นเข้ามา ได้ยินเสียงระเบิด ได้ยินเสียงหวอดังให้วิ่งหลบหลุมใต้ดิน และเคยเก็บเสบียงอาหารกักตุนอีกด้วย และเมื่อตนเองแก่เฒ่าก็มักจะมีเด็กๆ หลานๆ ข้าราชการมาไหว้ขอพรให้ตนเองอวยพรมีอายุยืนเหมือนกับตน

นายยงยุทธ ถนอมศรีมงคล นายอำเภอท่าแพ กล่าวว่า ทั้งตาเหม และยายดี เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่อำเภอท่าแพ และเป็นผู้อยู่มานานผลัดแผ่นดินมา 5 แผ่นดินจนถึงรัชกาลที่ 10 ทางอำเภอจึงได้เก็บเรื่องราวประวัติไว้ เพราะท่านทั้ง 2 คนถือว่าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เป็นตัวอย่างเรื่องสุภาพของคนที่จะก้าวเข้าสู่ผู้สูงวัย

ด้าน นายบาเสด ยาพระจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ กล่าวว่า การดูแลผู้สูงอายุที่ตำบลท่าเรือ เรามีการดูแลเอาใจใส่ทุกครอบครัวที่มีผู้เฒ่าผู้แก่ ส่วน 2 คนนี้ ทาง อบต.ก็จะนำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 มาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ทั้ง 2 ท่านได้นำไปติดฝาบ้าน และผู้สูงอายุคนอื่นๆ ด้วย
 


กำลังโหลดความคิดเห็น