ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “สิระ เจนจาคะ” พบผู้ว่าฯ ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดหรู มูลค่ากว่า 2,500 ล้าน “เดอะ พีค เรสซิเดนซ์” พูดสั้นๆ ผลสอบเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามนั้น ไม่มีข้อซักถามและข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น ระบุ 25 พ.ย.นี้ ดีเอสไอลงตรวจสอบ ปฏิเสธรับหนังสือร้องเรียนชาวบ้านกรณีทวงคืนคลองบางรักและถนนสาธารณะ ที่ชาวบ้านระบุถูกนายทุนฮุบ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาพบ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหรู โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ของบริษัท กะตะบีช จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ. ภูเก็ต ก่อนที่จะประชุมร่วมกับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ซึ่งมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน พร้อมด้วย รอง กอ.รมน. อัยการจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง ท้องถิ่นจังหวัด นายอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต และนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจากคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการเดอะพีคฯ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่งตั้งขึ้น เมื่อครั้งที่นายสิระ เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากผู้ประกอบการและชาวบ้านหาดกะตะน้อย ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
โดย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการเดอะพีคฯ กล่าวในที่ประชุม ว่า คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ใน 3 ประเด็นหลักๆ ตามข้อร้องเรียน คือ การออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ที่ดินแปลงที่ตั้งของโครงการ เดอะ พีคฯ ซึ่งศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สั่งเพิกถอน และทางกรมที่ดินได้ยื่นอุทธรณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
ส่วนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้น ทางโครงการได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารชุดที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ (คอนโดมิเนียม) โดยใช้ น.ส.3 ก. ร่วมกับเอกสารหลักฐานในการยื่นขอออกโฉนดที่ดิน ในการยื่นขอจัดทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถดำเนินการได้ โดยมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2 ครั้ง แต่ครั้งแรกไม่ผ่าน ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมให้แก้ไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มบ่อน้ำจาก 2 บ่อเป็น 4 บ่อ เพิ่มกำแพงกั้นดิน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ด้านล่างโครงการ เมื่อรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบ
จึงไปยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างต่อทางเทศบาลตำบลกะรน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 ที่สามารถใช้เอกสารสิทธิที่ดินที่เป็น ส.ค.1 น.ส.3 นส.3 ก. หรือโฉนดยื่นขอก็ได้ ทางเทศบาลตำบลกะรนตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ยื่นขอเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงออกใบอนุญาตก่อสร้างให้แก่โครงการเดอะพีคฯ ส่วนการจะขอเป็นอาคารชุดนั้นจะต้องเป็นโฉนดที่ดินเท่านั้นและต้องจดทะเบียนต่อทางกรมที่ดินเท่านั้น
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมาติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการเดอะพีคฯ ตามที่ตนได้ยื่นเรื่องต่อทางจังหวัดภูเก็ตไว้ในการเดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากผู้ประกอบการและชาวบ้านหาดกะตะน้อยเมื่อครั้งที่แล้ว และการตรวจสอบนั้นครบกำหนด 30 วัน ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ผลการตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไรตนไม่มีข้อซักถามและข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ขอให้ทางจังหวัดภูเก็ตตอบผลการตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษรมาเท่านั้น และในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ทางดีเอสไอจะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตนได้ไปยื่นเรื่องต่อทางกรมสอบสวนคดีพิเศษให้มาดำเนินการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการเดอะพีคฯ
หลังจากที่นายสิระ พูดเพียงสั้นๆ ในที่ประชุม ก็ได้เดินทางกลับ โดยบอกว่าจะต้องรีบไปออกทีวี ขณะที่นายสิระ จะขึ้นรถยนต์กลับนั้น นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน พร้อมด้วย นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน และชาวบ้านหาดกะตะกะรน จำนวนหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสิระ ให้ตรวจสอบกรณีคลองบางรักและถนนสาธารณะที่หาดกะตะน้อยที่หายไป
โดยระบุว่า ถูกนายทุนเจ้าของโรงแรมดังบนหาดกะตะน้อยยึดเป็นของตัวเองและปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านใช้พื้นที่สาธารณะในการทำมาหากิน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน แต่นายสิระ ปฏิเสธที่จะรับหนังสือดังกล่าว ได้ขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ทันที โดยผู้บริหารเทศบาลตำบลกะรนและชาวบ้านได้ล้อมรถไว้และตะโกนเรียกร้องให้นายสิระ ลงมารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนายทุนเจ้าของโรงแรม จนรถของนายสิระ ออกไปจากศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ทำให้ชาวบ้านผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือของชาวบ้านหาดกะตะกะรนในวันนี้กับ ส.ส.สิระ เพื่อต้องการที่จะให้นายสิระ เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีของคลองบางรักซึ่งเป็นคลองสาธารณะที่ตั้งอยู่บนหาดกะตะน้อย แต่ในปัจจุบันคลองดังกล่าวได้หายไป และรวมถึงถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งชาวบ้านรู้ดีว่าทั้งคลองบางรักและถนนสาธารณะที่หายไปนั้น เพราะถูกนายทุนเจ้าของโรงแรมยึดไปครอบครอง
“ชาวบ้านลงไปทำมาหากินบนชายหาดก็ถูกจับกุมดำเนินคดี ได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่นายทุนยึดทั้งคลองและถนนสาธารณะกลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีนักการเมืองใหญ่มาคุ้มครองอีกต่างหาก จึงอยากจะฝากไปยังหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายสิระ ด้วยว่า ได้ทำหน้าที่ ส.ส.สมบูรณ์แบบหรือไม่ และการลงมาตรวจสอบที่ภูเก็ตนั้น มีนัยอะไรหรือไม่ มาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือเพื่อผลประโยชน์ของใคร และที่สำคัญไม่รับหนังสือร้องเรียนความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่กลับรับหนังสือร้องเรียนของนายทุน” นายอิทธิพร กล่าวในที่สุด