ตรัง - ชาวตรังที่ทราบข่าวหนุ่มจิตอาสาหัวใจแกร่งชาวปัตตานีที่ตั้งเป้าวิ่งสู่เหนือสุด ต่างออกมาต้อนรับ และร่วมบริจาคเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ให้ 3 รพ.ชุมชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (8 พ.ย.) นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ 45ปี นักวิ่งมาราธอนจิตอาสาหัวใจแกร่ง ชาว จ.ปัตตานี ซึ่งนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ผูกติดกับโครงเหล็กไว้เหนือศีรษะ พร้อมหลานชาย คือนายแวนุรดีน สนิ อายุ 15 ปี ซึ่งปั่นจักรยานติดตามตลอดเส้นทาง เพื่อออกวิ่งรับบริจาคเงินทั่วไทย จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ให้กับ 3 โรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยได้วิ่งจาก จ.ปัตตานี มาถึง จ.ตรัง รวมแล้วเป็นวันที่ 6 ระยะทางรวมประมาณ 400 กิโลเมตรนั้น
ล่าสุดในวันนี้ได้ออกวิ่งจาก อ.ย่านตาขาว เข้าตัวเมืองตรัง พร้อมนำเงินที่ได้รับจากการบริจาคของวันนี้เข้าบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาตรัง จำนวนเงิน 35,192 บาท รวมยอดเงินบริจาคที่ได้จากการวิ่งผ่านเส้นทางต่างๆ จนถึง จ.ตรัง และเงินที่มีประชาชนผู้ใจบุญร่วมบริจาคเข้าบัญชี “น้ำใจไทย สู่จังหวัดชายแดนใต้” เป็นเงินรวมแล้วทั้งสิ้น 321,445 บาทแล้ว โดยมีทีมกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และตำรวจจราจร สภ.เมืองตรัง ร่วมอำนวยความสะดวก ซึ่งโดยเฉลี่ยนายอับดุล จะวิ่งได้ประมาณวันละ 70 กิโลเมตร
ทั้งนี้ พบว่าบรรยากาศคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ หลังประชาชนเริ่มรับทราบข่าวการวิ่งของนายอับดุล ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้ออกมาต้อนรับให้กำลังใจ และร่วมบริจาคเงินสมทบกันมากขึ้น โดยเฉพาะที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา หน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง ได้มี นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างเทศบาลนครตรัง รวมทั้งประชาชน ร่วมมอบเงินให้กำลังใจ และต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยมีทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ ร่วมตรวจร่างกายนายอับดุล และหลานชายด้วย
น.ส.ลลิตา ดำหนก พยาบาลวิชาชีพห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ กล่าวว่า ผลการตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นของนายอับดุล พบว่าความดันโลหิตสูงเล็กน้อย เพราะอาจมีอาการเหนื่อยหอบ ส่วนค่าออกซิเจนในเลือด และชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับหลานชายซึ่งปั่นจักรยานตามหลังพบว่าร่างกายปกติ และความดันปกติ แต่แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ รวมทั้งพวกน้ำหวาน เพราะหากวิ่งมากๆ ร่างกายอาจขาดน้ำตาล ขาดพลังงาน ทำให้หน้ามืดเป็นลมได้ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำ
ทั้งนี้ นายอับดุล ตั้งเป้าวิ่งจากภาคใต้สู่ภาคเหนือสุด จ.เชียงราย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ได้ทั้งหมด 55 จังหวัด ระยะทางรวม 4,200 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลากว่า 2 เดือน เพื่อระดมเงินจากประชาชนทั่วประเทศ ในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ไว้ช่วยเหลือคนไข้ในโรงพยาบาลชุมชน 3 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งเป้าโรงพยาบาลละ 5 ล้านบาท แต่หากยอดบริจาคมีมาก ก็จะมอบให้แก่โรงพยาบาลชุมชนอื่นๆ ต่อไป เพื่อทำความดีถวาย ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยคืนนี้ได้นอนพักค้างคืนที่ อ.สิเกา จ.ตรัง และพรุ่งนี้เช้าจะออกวิ่งมุ่งหน้าสู่ จ.กระบี่ ต่อไป
