xs
xsm
sm
md
lg

สำนักจุฬาราชมนตรีออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและประณามเหตุโจรใต้บุกยิงถล่มป้อม ชรบ.ยะลา จี้ รบ.เร่งจับกุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและประณามเหตุโจรใต้บุกยิงถล่มป้อม ชรบ.ต.ลำพะยา เมืองยะลา ชี้เป็นการกระทำอันเหี้ยมโหด ไร้มนุษยธรรม ละเมิดหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนา ทำลายความสัมพันธ์ไทยพุทธ-มุสลิม เรียกร้องรัฐบาลเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. วันที่ 5 พ.ย. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 15 ราย และบาดเจ็บ 5 รายนั้น

วันนี้ (8 พ.ย.) สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อบรรดาญาติของผู้สูญเสียทุกคน และประณามการกระทำอันเหี้ยมโหดที่กระทำต่อประชาชนที่อาสามาดูแลความสงบสุขของชุมชน ยิ่งไปกว่านั้น ความรุนแรงได้ทำลายความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันของชาวไทย ทั้งพุทธและมุสลิมในพื้นที่และนอกพื้นที่อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ สำนักจุฬาราชมนตรีเห็นว่าการใช้ความรุนแรงอย่างไร้ขอบเขตเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและละเมิดหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนาอย่างร้ายแรง และสำหรับศาสนาอิสลามนั้น การฆ่าผู้บริสุทธิ์ถือว่าเป็นบาปใหญ่ ดังปรากฏในพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน ความว่า “แท้จริง ผู้ใดฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ชีวิตหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามวลมนุษย์ทั้งมวล และหากผู้ใดช่วยรักษาชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้รักษาชีวิตมนุษย์ทั้งมวล” (อัล-กุรอาน 5: 32)

ที่ผ่านมา ความรุนแรงได้เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากผู้ก่อเหตุเจตนาให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว มุ่งหวังให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขของคนในพื้นที่ และที่สำคัญมุ่งหวังสร้างรอยปริแยกทางความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องพุทธและมุสลิมตลอดมา สำนักจุฬาราชมนตรี จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าใช้สติในการเผชิญกับปัญหาเช่นนี้ไม่ตกเป็นเหยื่อ และขอความร่วมมือรัฐบาลและเอกชนทุกภาคส่วนเร่งสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทุกศาสนา เพื่อให้ตระหนักถึงการรักษาสัมพันธภาพอันดีต่อกันเอาไว้ เพื่อธำรงสันติสุขและความมั่นคงสืบไป

ขอให้รัฐบาลเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อกระบวนการสันติภาพเพื่อหาทางออกจากความรุนแรงที่ยืดเยื้อมายาวนานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาขนและภาคประชาสังคมทุกหมู่เหล่าให้เข้ามามีส่วนในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป
 




กำลังโหลดความคิดเห็น