xs
xsm
sm
md
lg

หญิงอายุ 61 ปี ยึดอาชีพทำปลาเค็มตากแห้งขาย ภูมิใจส่งลูกๆ เรียนจบปริญญาตรี 5 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กระบี่ - หญิงอายุ 61 ปี ยึดอาชีพทำปลาเค็มตากแห้งขายมากว่า 40 ปี ทำรายได้งาม เดือนละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท แม้จะมีกลิ่นเหม็นแต่ไม่เคยรังเกียจ สามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี 5 คน สอนลูกอย่าดูถูกอาชีพตัวเอง


จากกรณีมีกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทั่วจังหวัดกระบี่ ว่า มียายวัย 61 ปี ยึดอาชีพทำปลาเค็มตากแห้งขาย จนสามารถส่งลูกทั้ง 5 คน เรียนจนจบปริญญาตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนพากันชื่นชม จากการตรวจสอบพบว่า หญิงวัย 61 ปี นางพนิดา หวันเหยบ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 71 ม.3 ต.คลองประสงค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบหญิงสูงวัยกำลังนั่งตัดแต่งและคัดแยกปลาเค็มตากแห้ง โดยมีลูกๆคอยช่วยกันแยกปลาเค็มใส่ถุงตามขนาด เตรียมส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์ในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ และอำเภอเหนือคลอง ในราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท สร้างรายได้ตกเดือนละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท


นางพนิดา กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพทำประมง จะไปทำอาชีพอย่างอื่นคงเป็นไปไม่ได้ ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้ยึดอาชีพทำปลาเค็มตากแห้ง เลี้ยงครอบครัว ส่งลูกๆ ทั้ง 5 คน จนเรียนจบปริญญาตรี มีงานมีการทำเลี้ยงดูตัวเองได้ บางคนสามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู มันเป็นยาวิเศษที่สุดในชีวิตของผู้เป็นแม่ ที่เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงแม้อาชีพการทำปลาเค็มจะเหม็น ไม่หอมเหมือนอาชีพอื่น ทุกวันนี้เมื่อลูกๆ กลับมาบ้านก็ช่วยกันทำปลาเค็มตากแห้งตามปกติ


“ลูกๆ ไม่เคยรังเกียจในอาชีพที่ตนทำอยู่ เพราะเชื่อว่าคุณค่าของคนอยู่ที่การทำงาน นอกจากนั้น ยังสอนลูกทุกคนอย่าดูถูกอาชีพของตัวเอง อย่าลืมที่มาของตัวเอง แม้เราจะไปยืนอยู่ในที่สูงก็ตาม ให้ลูๆทุกคนขยัน ซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย”


สำหรับสูตรวิธีการทำปลาเค็มตากแห้งของตน ไม่มีอะไรยุ่งยาก เมื่อได้ปลาสดมาแล้วก็ขูดเกล็ดปลาออก ตัดหัวปลาทิ้ง ล้างสะอาด ใส่เกลือตามความเหมาะสม แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำปลาเค็มมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง ก่อนนำปลาเค็มไปตากแดดอีกครั้งจนกว่าตัวปลาแห้ง และแข็งตัว แล้วจึงเก็บใส่ภาชนะมาเก็บไว้เพื่อจะบรรจุถุงนำไปขาย


โดยนางพนิดา บอกเคล็ดลับว่า ปลาเค็มตากแห้งต้องถึงแดดจริงๆ จึงจะอร่อย และหอม จากนั้นก็เก็บคัดแยกขนาดของปลาเค็ม ตัดตกแต่งปลาเค็ม ก่อนบรรจุใส่ถุงปิดให้สนิทป้องกันแมลงวันตอมส่งให้ลูกค้า สำหรับลูกค้ามีอยู่ทั่วไป ทั้งคนในหมู่บ้าน และในตัวเมือง ในแต่ละเดือนมีรายได้ประมาณ 2 หมื่นบาท พอที่จะจุนเจือครอบครัวและส่งลูกๆ เรียนโดยไม่เดือดร้อน รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำอาชีพนี้ และเป็นอาชีพที่ช่วยส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือจบและมีงานทำดีๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น