ตรัง - กลุ่มส่งเสริมอาชีพ ต.โคกยาง อ.กันตัง ร่วมกับชาวบ้าน รวมกลุ่มกันเปิดร้าน “ครัวแก้มดำ” ริมแม่น้ำตรัง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยเน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติและปลอดสารพิษ
วันนี้ (6 พ.ย.) กลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลโคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ในนามวิสาหกิจชุมชนครัวแก้มดำ นำโดย นายสมบัติ ทดแทน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านหนองเม้า ต.โคกยาง ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโคกยาง และตำบลใกล้เคียงจำนวนกว่า 170 คน ได้รวมกลุ่มกันเปิดร้านครัวแก้มดำ บริเวณริมแม่น้ำตรัง หมู่ที่ 1 บ้านฉาง ต.โคกยาง เพื่อต้องการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวที่เคยเปลี่ยวมืดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา ให้เป็นชุมชนที่มีความเจริญ ความสว่างไสว และความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งอาชีพหากุ้งแม่น้ำ เลี้ยงปลากระชัง หรือทำการเกษตร ปลูกพืชผักผลไม้
สมาชิกกลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลโคกยาง ได้เน้นการตกแต่งร้านครัวแก้มดำ ด้วยวัสดุธรรมชาติที่มีในพื้นที่ให้เกิดความหลากหลาย พร้อมจัดนั่งแบบห้อยขาชมธรรมชาติริมแม่น้ำ และให้อาหารปลา แล้วดูดดื่มกับอาหารที่แสนอร่อย ทั้งอาหารจากแม่น้ำตรัง หรือทะเลอันดามันแบบสดๆ ใหม่ๆ ปลอดสารพิษ รวมทั้งอาหารใต้และอาหารอีสาน ในลักษณะที่ว่า “ชมวิวหลักล้าน ชิมอาหารหลักร้อย” เช่น ยำแก้มดำ ราคา 150 บาท ยำแก้มแดง ราคา 180 บาท ตำถาด ราคา 120 บาท หรือกุ้งแม่น้ำเผา ปลาทับทิมเผาเกลือ กบ กระรอก และจิ้งหรีด ที่มีราคาตามน้ำหนัก รวมถึงอาหารพื้นบ้าน และของหวานพื้นถิ่นอย่างลูกจากเชื่อม
ทั้งนี้ ยำแก้มดำ ยำแก้มแดง กุ้งแม่น้ำเผา ปลาทับทิมเผาเกลือ แกงปลาดุกนา และห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะเมนูยำแก้มแดง ที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านครัวแก้มดำ ด้วยการนำเอาอาหารทะเล ทั้งกุ้ง ปลา หมึก มายำซีฟูด และนำภาชนะที่ทำจากเผือกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อทำเป็นตะกร้าเล็กๆ แล้วทอดด้วยน้ำมันร้อน จึงสามารถรับประทานได้ทั้งจาน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่อาหาร และเป็นการลดโลกร้อนโดยใช้วัสดุธรรมชาติอีกด้วย ส่วนเมนูแกงปลาดุกนา ก็มาจากวัตถุดิบที่ซื้อมาจากชาวบ้านในแหล่งอาศัยธรรมชาติ เช่นเดียวกับเมนูกุ้งแม่น้ำเผา ที่ได้วัตถุดิบมาจากแม่น้ำตรังแบบสดๆ
นายอำพล ทองเสน่ห์ ผู้บริหารร้านครัวแก้มดำ กลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลโคกยาง กล่าวว่า ร้านอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น. และหยุดเฉพาะวันพฤหัสบดี โดยทางกลุ่มจะมีการรับซื้อสัตว์น้ำที่จับได้จากธรรมชาติ และพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษจากชาวบ้าน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และทำให้บริเวณนี้เกิดความเจริญและความปลอดภัย ส่วนราคาอาหารจะเริ่มต้นจาก 50 บาท ไปจนถึง 1,200 บาท สามารถสร้างรายได้ให้วันประมาณ 1-3 หมื่นบาท ซึ่งจะนำกำไรครึ่งหนึ่งมาแบ่งปันกันตามหุ้นปีละ 1 ครั้ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะนำไปต่อยอดอย่างอื่น
ด้าน นายทินกร เพชรสุวรรณ ลูกค้าที่มานั่งทานอาหารในร้านครัวแก้มดำ บอกว่า ตนเองก็หวังอยู่ว่าสักวันจะมีร้านแบบนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความเจริญ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และมีการกระจายหุ้นให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม เนื่องจากวันนี้พืชเศรษฐกิจหลักหลายตัวมีปัญหา ทุกคนจึงต้องหันมาทำงานในเชิงให้บริการหรือเชิงนิเวศ
“เมื่อมีร้านอาหารเกิดขึ้นทำให้ถนนหนทางมีความสะดวกสบาย และมีการพัฒนาที่หลากหลาย ส่วนสิ่งที่น่าจะเสริมหลังจากนี้ก็คือ การนำเรือมาให้บริการล่องชมธรรมชาติในแม่น้ำตรัง ขณะที่ภาครัฐก็น่าจะมาช่วยเสริมให้เป็นตลาดน้ำ หรือแหล่งอาหารการกิน ตามศักยภาพของพื้นที่ที่มีอยู่แล้วหลายอย่าง” นายทินกร กล่าว