ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ป่วยทางจิตใช้สากกะเบือตีหน้าลูกสาววัย 6 ขวบ จนเสียชีวิต แล้วห่มผ้าให้ลูกนอน กอดศพแนบอกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยายกลับจากทำงานตอนดึกมาปลุกหลานสาวให้ลุกขึ้นไปฉี่แทบช็อก เมื่อเปิดผ้าห่มและเห็นหลานสาวนอนเสียชีวิต
วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท.วัชริน ตันเจริญรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตภายในห้องเช่าเลขที่ 1/11 ซอยศาลาทวดหมู่ 8 ต.ปริก อ.สะเดา หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสะเดาพบร่าง ด.ญ.ปิยะฉัตร แข็งแรง หรือน้องเปีย อายุ 6 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน สภาพใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนช้ำทั้งหน้า เลือดออกทางจมูกเลอะที่นอน สภาพศพเพิ่งถูกทำร้าย และที่หน้าห้องนอนพบสากกะเบือเปื้อนเลือดตกอยู่คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายน้องเปีย
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายน้องเปีย จนเสียชีวิตคือ น.ส.พรรณภา แข็งแรง อายุ 24 ปี ขณะเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนยังอยู่ภายในห้องนอน แต่ไม่ยอมพูดคุยหรือให้การใดๆ นิ่งเฉยตลอด ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.สะเดา
ด้าน นางสมัย ติธรรม อายุ 42 ปี แม่ของ น.ส.พรรณภา ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วานนี้ ตนได้กลับจากทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา เมื่อกลับมาถึงบ้านได้เคาะประตูเรียก น.ส.พรรณภา ซึ่งเป็นลูกสาว และได้เดินออกมาเปิดประตูให้ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปนอนภายในห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตนรู้สึกผิดสังเกตเนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหลานสาว จึงเดินเข้าไปดูภายในห้องนอนก็เห็นหลานสาวนอนห่มผ้าคลุมหัวอยู่โดยมีแม่นอนกอดลูกแนบอก จึงได้เรียกหลานเพื่อให้ลุกขึ้นไปฉี่เหมือนทุกคืน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
“เรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ตื่นจึงได้ไปดึงผ้าห่มออกจากตัวก็แทบช็อก เพราะที่ใบหน้าหลานถูกตีจนเละเลือดอาบ เมื่อถามลูกสาวก็ไม่ยอมพูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งอย่างเดียว จึงได้ออกไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาดูและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ”
นางสมัย ยังกล่าวอีกว่า น้องเปียกำลังจะเข้าโรงเรียนในชั้นอนุบาล 3 ในวันนี้เป็นวันแรกหลังจากที่ได้ไปสมัครเรียนไว้แล้ว เนื่องจากน้องเปียและแม่เพิ่งเดินทางมาอยู่กับตนที่ห้องเช่าเมื่อประมาณวันที่ 24-25 ก.ย. และอาศัยอยู่ในห้องเช่าด้วยกัน 3 คน ตนเป็นคนทำงานหาเลี้ยง เนื่องจากลูกสาวมีอาการป่วยทางจิต ทำงานไม่ได้ และก่อนหน้านี้ ก็อาศัยอยู่กับตาที่ จ.นครพนม แต่เมื่อตาเสียชีวิตทั้ง 2 คนก็มาอยู่กับตนเพราะไม่มีใครดูแล โดยคาดว่าสาเหตุที่ทำร้ายลูกน่าจะมาจากอาการป่วยทางจิตกำเริบและขาดยาเนื่องจากไม่กินยาต่อเนื่องมาหลายวัน
สำหรับศพของน้องเปีย ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดหัวถนน ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านเกิดเหตุ และจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพแค่คืนเดียวและในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) จะทำพิธีฌาปณกิจศพทันที เนื่องจากครอบครัวลำบากและไม่มีญาติพี่น้อง มีเพียงเพื่อนบ้านและเพื่อนคนงานที่ร่วมกันเรี่ยไรเงินมาช่วยงานศพ ส่วนญาติพี่น้องที่ จ.นครพนม ก็ไม่มีใครเดินทางมา เนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องการเดินทาง และส่วนใหญ่ลำบาก โดยบรรยากาศในงานศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงนางสมัย ซึ่งเป็นยายและเพื่อนคนงานเพียงไม่มีคนที่มาช่วยกันดูแลงานศพ
ส่วน น.ส.พรรณภา ซึ่งเป็นแม่ของน้องเปีย พนักงานสอบสวน สภ.สะเดายังไม่แจ้งข้อหาใดๆ โดยได้ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ตรวจอาการอย่างละเอียดและทำการรักษา โดยจะรอการยืนยันจากแพทย์ว่าป่วยทางจิตหรือไม่ หากป่วยจริงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หายก่อนจากนั้นจึงค่อยมาว่ากันทางคดี
ในขณะที่เพื่อนบ้านคนหนึ่ง บอกว่า ทันทีที่รู้ข่าวว่าน้องเปียถูกแม่แท้ๆ ทำร้ายจนเสียชีวิตก็ตกใจวางช้อนข้าวทันทีและกินต่อไม่ได้ ขนลุก เพราะเห็นอยู่กันเป็นประจำ และไม่นานก็เคยชวนแม่ลูกคู่นี้มากินหมูกระทะในงานวันเกิดของหลานสาวตัวเองด้วย ซึ่งน้องเปียเป็นเด็กน่ารัก แต่ไม่ค่อยพูด ส่วนแม่ก็เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดจากับใคร และไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุร้ายกับน้องเปียถึงขนาดถูกฆ่าด้วยแม่ของตัวเอง