ปัตตานี - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงดาบสั่งพักราชการทหาร มทบ.42 จากเหตุยิงพ่อค้าหัวปลาที่สงขลาเสียชีวิต เผยยินดีให้ความร่วมมือ และไม่มีการปกป้องอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (2 พ.ย.) จากกรณี จ.ส.อ.ทรงวุฒิ บุญรัตน์ นายสิบฝ่ายสรรพาวุธแผนกสรรพาวุธ มณฑลทหารบกที่ 42 ได้ปรากฏภาพผ่านสื่อออนไลน์ เกี่ยวข้องกรณีพ่อค้าหัวปลาถูกยิงเสียชีวิตคารถกระบะ บนถนนในพื้นที่ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 30 ต.ค.62 ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความโปร่งใส เเละพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และภายหลังได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อดำเนินการทางวินัยทหารตามลักษณะฐานความผิด ยืนยันว่าทางกองทัพยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะไม่มีการปกป้องอย่างเด็ดขาด
โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.62 เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 42 ได้ควบคุมตัวกำลังพลดังกล่าวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาโดยมีนายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน มณฑลทหารบกที่ 42 ร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย โดยในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ปัจจุบันได้ส่งตัวฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับการดำเนินการทางวินัย มณทลทหารบกที่ 42 ในฐานะหน่วยต้นสังกัด ได้มีคำสั่งพักราชการตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา และหากคดีถึงที่สุดและมีความผิดตามข้อกล่าวหาก็จะรายงานปลดออกจากราชการต่อไป
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีภายในกรมกอง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน และหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดก็จะมีมาตรการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น
จึงขอให้สังคมได้มีความมั่นใจว่า กองทัพจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดในทุกกรณี และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อน ขอให้แจ้งหน่วยต้นสังกัดทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และพิจารณาลงทัณฑ์ตามความเหมาะสมต่อไป