xs
xsm
sm
md
lg

“บสย.” ย้ำการเป็นหลักประกันให้เอสเอ็มอี แนะจดเป็นนิติบุคคลหลังสรรพากรเตรียมตามเก็บภาษีละเอียดขึ้น (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บสย.จัดงาน “มหกรรมคลินิกหมอหนี้ บสย. จ.สงขลา” รับคำปรึกษาจากหมอหนี้ สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ออกบูธจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอี ย้ำ “บสย.” เป็นหลักประกันให้เอสเอ็มอี หนี้เสียไม่เกิน 30 % รับชดใช้ให้ทุกบาททุกสตางค์ วงเสวนาแนะผู้ค่าที่เป็นบุคคลธรรมดาจดเป็นนิติบุคคล แม้จะยุ่งยากขึ้น แต่ก็จะทำให้ประหยัดขึ้นมาก
 
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ ร.ร.บุรีศรีภู บูติกโฮเต็ล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดงาน “มหกรรมคลินิกหมอหนี้ บสย. จ.สงขลา” โดยจัดให้ผู้ประกอบขอรับคำปรึกษากับหมอหนี้ บสย. การขอรับคำปรึกษาและเยี่ยมชมบูธสถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน และตรวจเครดิตบูโรได้ฟรี รวมทั้ง มีการออกบูธจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการภายในงานด้วย
 
นายวรณัฎฐ์ หนูรอด ปลัดจังหวัดสงขลา กล่าวเปิดงานว่า คำว่าเป็นหนี้หากเปรียบเป็นโรคชนิดหนึ่ง หากรู้จักระมัดระวังเหมือนเตรียมตัวจะเป็นหนี้ พร้อมที่จะสู้กับหนี้ ตั้งสติดีๆ ทำเพื่อให้มีภูมิต้านทาน วันนี้ สถานการณ์ของเราเปลี่ยนมากมาย สภาพเศรษฐกิจตอนนี้มีแอปพริเคชั่น มีค้าขายออนไลน์มากมาย พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้าน มีหน้าร้านจะอยู่อย่างไร แข่งอย่างไรกับออนไลน์ จะทำอย่างไรที่จะลดต้นทุน ทั้งดอกเบี้ย วัตถุดิบ เราโชคดีที่อยู่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ เพียงแต่ขอให้เราตั้งมั่นด้วยความรอบคอบ
 
 
นายวรณัฎฐ์ หนูรอด ปลัดจังหวัดสงขลา
 
ด้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า วันนี้ บสย.เป็นหลักประกันทางธุรกิจ ใช้นโยบายของรัฐบาลในการชดใช้ให้สถาบันการเงินทุกราย หากหนี้เสียไม่เกิน 30 % เราชดใช้ทุกบาททุกสตางค์ หน้าที่ของ บสย.คือหมอหนี้ เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินภาครัฐ คือไม่คิดค่าปรึกษา มีเอ็มโอยูร่วมกับ 18 ธนาคารและนอนแบงค์ หากทรัพย์ไม่มี เดินมาหา บสย.

“หน้าที่เราคือเติมทุน เติมความรู้ และสิ่งที่เราปารถนาอย่างมากคือ คุณภาพชีวิตที่อยากเติมให้ทุกคน เมื่อผู้ประกอบการอยู่ได้ ลูกจ้างก็อยู่ได้ นี่คือคอนเซปท์ บสย.ในยุค 4.0 มีทั้งสายด่วน ไลน์ และเว็บไซต์เพื่อให้อัพโหลดเอกสารมาก่อนได้คุยกัน ใช้ บสย.ในการสแกนก่อน” ดร.รักษ์ กล่าว
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย.
 
จากนั้น เป็นการเสวนาเรื่อง “บสย.ชี้ทางรอด ด้วยภาษีและสินเชื่อ” โดยนายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ (Mr.Banker) อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ นโยบายภาษีมากขึ้น เก็บละเอียดขึ้น ใช้วิธีสังเคราะห์จากฐานข้อมูลมากมาย จะดุเดือดกว่าปี 2562 เป้าหมายใหญ่คือบุคคลธรรมดาและขายออนไลน์ ใครที่ใช้บ้านเป็นสถานประกอบการ กรมสรรพากรจะดูข้อมูลในระบบ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ดูว่ามีค่าน้ำค่าไฟสูงเกินปกติ นอกจากนี้ยังจะดูเรื่องการใช้จ่ายดิจิตอลทั้งหมด

นายสุรชัย กล่าวว่า เกี่ยวกับภาษี ตัวแรก ปีนี้ หากใครไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นภาษีก้อนใหญ่ของประเทศ มีเสียว ถ้าขายไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิน 1.8 ล้านบาทอาจแจ็คพ็อต ตัวที่สอง ภาษีเงินได้นิติบุคคล ใครวางแผนเป็นจะประหยัดเรื่องภาษีได้ ซึ่งสำนักงานบัญชีไม่ได้ช่วยเรา สาม ภาษีหัก ณ ที่จ่ายและอากรแสตมป์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของนิติบุคคล และตัวสุดท้าย ซึ่งกรมสรรพากรจะตามคือ บุคคลธรรมดา กรมสรรพากรบอกมีคนยื่นขาดไป 4 ล้านคน ประกาศจะตามหาเพื่อนำเข้าระบบ นอกจากนี้ จะหาทางพิสูจน์รายได้ เพราะบุคคลธรรมดาใช้วิธีแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องทำบัญชี

“ดังนั้น ใครเป็นบุคคลธรรมดาแล้วรายได้ถึงตามเกณฑ์ 1.8 ล้านบาทมาเป็นนิติบุคคลดีกว่า คุณเพียงแต่มีความยุ่งยากแค่เรื่องบัญชีและงบการเงิน ที่เรียนรู้ได้ไม่ยาก หลายอย่างใช้สำนักงานบัญชีช่วยจัดการให้ได้ จะประหยัดไปมาก ช่วยลดต้นทุน หักค่าใช้จ่าย ถ้าทำได้จะประหยัดภาษีไปมาก เพราะฐานภาษีคนละตัวกัน”
 
นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ (Mr.Banker) อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย






กำลังโหลดความคิดเห็น