xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาโยงรวมกลุ่มปลูกกาแฟเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้อย่างงดงาม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ตรัง - ชาวนาโยงบริเวณเทือกเขาบรรทัด รวมกลุ่มปลูกกาแฟช่องเขาเป็นอาชีพเสริม หลังราคายางตกต่ำต่อเนื่อง จนสร้างรายได้ให้อย่างงดงาม โดยเฉพาะกาแฟมานิ ที่มีราคาดี กก.ละ 800-1,000 บาท

นายสุวิทย์ โพชสาลี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/2 หมู่ 4 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ในฐานะประธานกลุ่มผู้ปลูกกาแฟช่องเขา เทือกเขาบรรทัด ได้รวมกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างอาชีพเสริม หลังจากที่สภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่นตกต่ำลงเรื่อยๆ และจะหวังพึ่งแต่อาชีพทำยางพาราเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ดังนั้น เมื่อมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านทำอาชีพเสริมในสวนยางพารา จึงได้ชักชวนชาวบ้านรวมตัวกันปลูกกาแฟต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยการส่งเสริมของสหกรณ์การเกษตรนาโยง จำกัด ด้วยการปลูกเอง ทำกินเอง และขายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว จนล่าสุดมีการปลูกกาแฟไปแล้วในพื้นที่ อ.นาโยง ประมาณ 40,000 ต้น
 

 
โดยทางกลุ่มจะเป็นผู้รับซื้อผลผลิตจากสมาชิก คือเมล็ดกาแฟสด ให้ราคากิโลกรัมละ 20 บาท และกาแฟตากแห้ง ให้ราคากิโลกรัมละ 60-65 บาทตามเกรด จากนั้นนำมาตากให้แห้ง ก่อนแปรรูปเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว แล้วบรรจุส่งร้านกาแฟสดต่างๆ รวมทั้งนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟดริฟ จำหน่ายซองละ 25 บาท กาแฟดำทั่วไป จำหน่ายซองละ 10 บาท และกาแฟน้ำผึ้ง ส่วนเมล็ดกาแฟที่คั่วแล้ว เกรด A จะขายกิโลกรัมละ 140 บาท เกรด B กิโลกรัมละ 120 บาท และเกรด C กิโลกรัมละ 100 บาท

แต่ถ้าหากได้ต่อยอดไปเป็นกาแฟเมล็ดข้าวแล้ว จะมีราคากิโลกรัมละ 300 บาท หรือหากเป็นกาแฟมานิ จะมีราคากิโลกรัมละ 800-1,000 บาท ขณะที่ดอกกาแฟ หรือเปลือกกาแฟ ยังสามารถนำไปตากแห้งเพื่อทำเป็นชา รวมทั้งยังนำไปทำเป็นสบู่กากกาแฟ ขายในราคาก้อนใหญ่ 20 บาท ก้อนเล็ก 10 บาทได้อีกด้วย
 

 
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางกลุ่มอยากได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือเครื่องสีกาแฟสด เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตออกมาเลย โดยไม่ต้องนำไปตากให้ยุ่งยาก และเสียเวลา เนื่องจากภาคใต้มีปัญหาฝนตกชุก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟกับกลุ่มผู้ปลูกกาแฟช่องเขา เทือกเขาบรรทัด นับตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บผลผลิต และการแปรรูป ตามสโลแกน “กาแฟมานิ มาคั่วนี้” โดยติดต่อมาได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 094-886-2953
 




กำลังโหลดความคิดเห็น