xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวต่อไปในบาทวิถีที่ “คณากร เพียรชนะ” ต้องเลือก?! เพื่อ “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

.
โดย… ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
.

 

 
จากวันที่ 4 ต.ค.2562 ที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ ยังมีหลายคนคิดว่า “คณากร เพียรชนะ” ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา จัดฉากยิงตัวเอง โดยมีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง?! 
 
หลายคนเหล่านั้นตั้งข้อสงสัยว่า คนจะฆ่าตัวตาย “ทำไมไม่ยิงกรอกปาก” หรือ “จ่อขมับ” ให้จบๆ ไป ทำไมต้องยิงที่ใต้ราวนม แล้วไฉนกระสุนปืนจึงไปโดนม้าม ซึ่งอยู่ห่างกับจุดที่ยิง บางคนถึงกับบอกว่านายคณากร ใช้กระสุนปลอม จึงยิงตัวเองแล้วไม่ตาย?!
 
ข้อสงสัยเหล่านี้แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ให้ข้อเท็จจริงว่า การยิงที่จุดไหนของร่างกายหากทำให้เสียเลือดจำนวนมากแล้ว จะยิงที่ไหนๆ ก็ตายได้เช่นกัน บางครั้งเสียเลือดมากแค่ภายใน 30 วินาทีก็ตายได้
 
หรือเรื่องจุดที่ยิงก็เช่นกัน นพ.บรรยง เหล่าเจริญสุข ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ระบุชัดเจนว่า มีรอยกระสุนที่ทรวงอกด้านซ้าย กระสุนทะลุออกทางแผ่นหลังด้านซ้าย กระสุนปืนที่ใช้ยิงเป็นกระสุนขนาด 9 มม. และน่าจะเป็นกระสุนจริง ซึ่งก็สอดคล้องต่อการบอกกล่าวของตำรวจ สภ.เมืองยะลา ที่ยืนยันว่า กระสุนที่นายคณากร ใช้ยิงตัวเองเป็นกระสุนจริง
 
แต่คนที่เชื่อว่า นายคณากร จัดฉากยิงตัวเอง พวกเขาก็ยังคงความเชื่อนี้ไว้ไม่เสื่อมคลาย!!
 

นพ.บรรยง เหล่าเจริญสุข ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
วันที่ 15 ต.ค.2562 หลังจากพักรักษาตัวมาราว 11 วัน นายคณากรได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน โดย ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ยะลากล่าวถึงอาการของนายคณากร ว่า เกือบหายเป็นปกติแล้ว แต่ยังมีอาการเล็กน้อย จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนสภาพจิตใจนั้น เบื้องต้นพบว่าอาการทางจิตเป็นปกติดี
 
เมื่อข่าวกระจายออกไปผู้คนที่ไม่เชื่อว่านายคณากร ตั้งใจจะฆ่าตัวตายจริงๆ ต่างแสดงความคิดเห็นออกมาในทำนองเดียวกันว่า ทำไมคนที่ตั้งใจยิงตัวตายได้ไม่กี่วันก็ได้ออกจากห้องไอซียู แล้วพักฟื้นต่ออีกไม่กี่วันก็ได้ออกจากโรงพยาบาล แถมเดินออกจากโรงพยาบาลแบบสบายๆ ตัวปลิวกลับบ้านเลย
 
ภายหลังออกจากโรงพยาบาล นายคณากรก็ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถามสื่อมวลชน อีกทั้งก็แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ปรากฏออกมาสู่สาธารณชน!! 
 
ส่วนเรื่องที่หลายคนเชื่อว่า การยิงตัวเองของนายคณากรมีเบื้องหลังเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวตอบคำถามของผู้เข้าฟังการบรรยายพิเศษเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย : บทบาทของประชาชนในการสร้างชาติ” เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2562 ที่ถูกถามว่า…
 
มีการส่งข้อความ 25 หน้าให้นายปิยบุตร จริงหรือไม่ หากจริงให้นำมาเปิดเผย อย่าพูดว่าได้รับมาแล้วไม่บอก หรือบอกว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่เคยได้เอกสาร 25 หน้าดังกล่าว แต่มีการโพสต์เอกสาร 25 หน้านั้นหลังจากการยิงตัวเองของผู้พิพากษา และตอนนี้โพสต์นั้นได้หายไปแล้ว
 
นายปิยบุตร อธิบายว่า เราได้เห็นเอกสาร 25 หน้าพร้อมๆ กับทุกคนผ่านเฟซบุ๊กของผู้พิพากษาคณากร ซึ่งไม่ได้เป็นเอกสารที่ปิดบัง ซึ่งหาดูได้ตามสื่อมวลชนทั่วไป ดังนั้น การที่มีการบอกว่าพรรคอนาคตใหม่รู้คำพิพากษาก่อนล่วงหน้านั้น ไม่เป็นความจริง
 

 
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เขาไม่เคยเจอกับนายคณากร มาก่อน มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ผู้พิพากษาคณากรส่งข้อความมาทางเพจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และเพจของพรรคอนาคตใหม่ 2 ครั้ง เมื่อปลายเดือน ส.ค.และต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
 
ครั้งแรกถามว่า พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายในการแก้ไขกฎหมายเพื่อประกันความเป็นอิสระขององค์คณะผู้พิพากษาหรือไม่ และครั้งที่ 2 เพื่อติดต่อขอพบ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานที่จะแสดงว่า มีการแทรกแซงคำพิพากษาขององค์คณะของนายคณากร
 
จุดเน้นย้ำของผมคือ พยายามจะถอนความเป็นการเมืองออกจากกรณีนี้ เพื่อให้การตัดสินใจของคุณคณากรเป็นความบริสุทธิ์จากเจตจำนงของเขาเอง ทั้งนี้มีความพยายามเอาความเป็นพรรคการเมือง การเมืองไปปะปนกัน ลดทอนเจตนารมณ์ของคุณคณากรไป 
 
นายปิยบุตร กล่าวและเสริมว่า
 
การยิงตัวเองของคุณคณากรถือว่ากล้าหาญ ใจเด็ดมาก และเป็นเรื่องดีที่ไม่เสียชีวิต เราอย่าให้คุณคณากรตายทั้งเป็น ตายซ้ำสองอีกรอบ ทำลายชีวิตเขาอีกรอบหนึ่ง ทำให้ผมหยุดพูดเรื่องนี้และปล่อยให้วงวิชาการนำไปพูดกัน เพราะหากผมพูดเมื่อใด จะถูกฝ่ายที่ไม่ชอบพรรคอนาคตใหม่นำไปปลุกปั่น อ้างว่าคุณคณากรเป็นกองเชียร์พรรคอนาคตใหม่ สมรู้ร่วมคิดกัน
 
นายปิยบุตร ยังอธิบายอีกด้วยว่า ในส่วนที่ตัวเขาเป็นประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษชน สภาผู้แทนราษฎร นั่นก็คิดว่าควรจะใช้คณะกรรมาธิการนี้ผลักดันประเด็นนี้แทน เพื่อให้กรณีนี้เป็นบทเรียนว่า เราจะหาจุดสมดุลกันระหว่างประกันความเป็นอิสระขององค์คณะผู้พิพากษา หรือควรให้มีผู้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสร้างบรรทัดฐานในแนวคำพิพากษาศาล
 
อีกทั้งมีอีกคณะกรรมาธิการของสภาชุดอื่นที่ต้องการทำเรื่องเดียวกันนี้ด้วยคือ คณะกรรมาธิการศาล ซึ่งก็ต้องมาดูกันอีกครั้งว่าใครจะทำ หรือทำร่วมกัน
ในส่วนของศาลสถิตยุติธรรมเองก็ไม่นิ่งนอนใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2562 คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ได้มีมติตั้งอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมวิสามัญ จำนวน 3 คน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และให้รายงาน ก.ต.ทราบภายใน 15 วัน
 
โดยอนุกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วย (1) นางวาสนา หงส์เจริญ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลฎีกา เป็นประธานอนุกรรมการ (2) นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลอุทธรณ์ และ (3) นายสุวิชา สุขเกษมหทัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิในชั้นศาลชั้นต้น
 
 

 
จากวันที่ 4 ต.ค.2562 ที่เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นในศาลจังหวัดยะลา แล้วยังสร้างพลานุภาพแผดกังวานไปทั้งประเทศ ขณะที่สื่อต่างชาติก็สะท้อนหวีดแว่วไปด้วยเช่นกัน จนถึงวันนี้ความฉงนสนเท่ห์หลายสิ่งหลายอย่างยังคงไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะหลายข้อสงสัยต่อเหตุที่ทำให้ถึงขั้นต้องกระทำอัตวินิตบาตกรรมตนเองของคนระดับผู้พิพากษา
 
ไม่เพียงเท่านั้น เวลานี้ผู้คนที่เกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อมมากมายต่างเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่ตัวของนายคณากรผู้ลั่นกระสุนหวังปิดชีพตนเองก็ยังปิดปาก ยังไม่ยอมกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกเลย!!
 
หลายคนจึงคงเฝ้ามองดูสถานการณ์ว่า ต่อจากนี้เรื่องราวต่างๆ จะดำเนินไปอย่างไรและในทิศทางไหน โดยเฉพาะในส่วนของอนุกรรมการวิสามัญของ ก.ต.ที่เมื่อครบกำหนดจะรายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุม ก.ต.เช่นไร และที่ประชุม ก.ต.จะมีคำสั่งหรือความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
 
อย่างไรก็ตาม ผู้คนในสังคมจำนวนมากต่างคาดการณ์ไปในทำนองเดียวกันว่า เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับบุคคลในกระบวนการยุติธรรม นับจากนี้สิ่งที่จะปรากฏออกมาให้สังคมรับรู้รับทราบอาจจะไม่ต่างจากกรณี “เพื่อนโชค” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานนี้?!
 
ที่สำคัญยิ่งคือ แล้วทางเดินต่อไปของผู้พิพากษาคณากรจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางการจับตามองและวิเคราะห์กันหนาหูว่า เวลานี้เขาเดินไปถึงทางแพร่งที่จะต้องตัดสินใจครั้งสำคัญมากๆ ในชีวิตอีกคราหนึ่งแล้วว่าจะก้าวเท้าไปในทิศทางไหน ณ จุดที่เป็นทางแยกนี้
 
เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องถูกให้ออกจากราชการ อันเป็นไปตามที่เขาหวั่นเกรงจนต้องเขียนไว้ในแถลงการณ์ 25 หน้าหรือไม่? หรือหากยังได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ผู้พิพากษาต่อไป บนเส้นทางนี้จะมีทางแยกให้เลือกเดินอีกหรือไม่? หรือว่าเขาจะเลือกทางเดินเพื่อสานต่อสิ่งที่ทำไว้เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 ซึ่งจะด้วยวิธีการใดก็ตาม?
 
เรื่องนี้มีแต่นายคณากรเท่านั้นที่จะให้คำตอบนี้ได้!!
 
แต่จะเดินไปทางไหนก็ตาม มีสิ่งที่เขาย่อมจะปฏิเสธไม่ได้คือ บนหนทางเหล่านี้มีผู้คนไม่น้อยที่พร้อมจะหาเหตุผลมารองรับ “ธง” ที่พวกเขาปักเอาไว้แล้วว่าการกระทำของเขาไม่ได้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างที่กล่าวอ้าง หากแต่มีเบื้องหลังตามที่ได้จับมือกับพรรคการเมืองเอาไว้แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อล้มล้าง “รัฐบาล” ที่พวกเขาชื่นชอบ?!?!

ทว่า ก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากมายไม่แพ้กันที่พร้อมจะ “เป็นกำลังใจ” ให้เขาได้ก้าวเดินต่อไปในวิถีที่เขาเลือกที่จะย่ำย่างไปข้างหน้าตราบที่เขายังมีลมหายใจ!!!!
 


กำลังโหลดความคิดเห็น