พังงา - ชาวบ้านบางคลี จ.พังงา ต้องการออกโฉนดในเอกสาร ส.ค.1 ซึ่งมีการกันแนวพื้นที่ จำนวน 4,900 ไร่ พบติดปัญหาทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทับซ้อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ดินยันต้องนำหลักฐานพิสูจน์การครอบครอง
จากกรณีชาวบ้านบ้านบางคลี ต.นาเตย จ.พังงา กว่า 400 ครัวเรือน เรียกร้องขอออกโฉนดที่ดินที่มีการกันแนวพื้นที่เป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ เกือบ 5,000 ไร่ วันนี้ นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี พร้อมด้วย นายปรารถนา ดำทน กำนันตำบลนาเตย นายวิชัย ก้องจันทร์สว่าง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง เข้าร่วมชี้แจงให้ชาวบ้านบางคลี รับทราบถึงสภาพการครอบครองที่ดินบริเวณที่ดินทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์บ้านบางคลี ซึ่งมีการกันแนวพื้นที่ จำนวน 4,900 ไร่ ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2469 ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านบางคลี ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
โดยมีชาวบ้านเข้ารับฟังจำนวนมาก เนื่องจากชาวกว่า 400 ครัวเรือน ต้องการให้ภาครัฐออกโฉนดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่มีการถือครองกรรมสิทธิ์เป็น ส.ค.1 และ ส.ป.ก.4-01 โดยเฉพาะ ส.ค.1 ที่ภาครัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าแจ้งที่ดินทำกินไว้ตั้งแต่ปี 2497 หากมีการพิสูจน์ได้ว่าสิทธิการครอบครองมีมาก่อนปี 2469 ทางสำนักงานที่ดินอำเภอท้ายเหมืองพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อออกเอกสารสิทธิในการครอบครองให้แก่ชาวบ้านได้ ขณะทางชาวบ้านในพื้นที่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนกว่า 400 ครัวเรือน บางครัวเรือนได้ตั้งรกรากอาศัยมานานกว่า 60 ปี จึงต้องการให้ภาครัฐเข้าดำเนินการออกเอกสารสิทธิเพื่อที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกิน
นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า การประชุมหมู่บ้านบางคลี ตนเองได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าชี้แจง กรณี ส.ค.1 ที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ไม่สามารถนำสู่การออกโฉนดให้แก่ชาวบ้านได้ เนื่องจากที่ดินจำนวนประมาณ 4,900 ไร่ มีการกันแนวเขตไว้เป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์มาก่อนหน้านี้ ขณะที่ผ่านมา ภาครัฐได้เข้ามาดำเนินการออกเอกสารสิทธิเป็น ส.ป.ก.4-01 ซึ่งทางชาวบ้านไม่ต้องการเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่อ้างที่ดินดังกล่าวว่าเป็น ส.ค.1 โดยครอบครองมานานแล้ว
ด้าน นายวิชัย ก้องจันทร์สว่าง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง กล่าวว่า สภาพพื้นที่ในตำบลนาเตย มีสภาพปะปนกันระหว่างที่ดินของรัฐและที่ดินเอกชน ซึ่งตนเองได้ถูกเชิญให้ทำความเข้าใจสภาพที่ดินของพื้นที่บ้านบางคลี โดย ส.ค.1 คือ หนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 กำหนดให้ประชาชนทุกคนแจ้ง ส.ค.1 ขณะบริเวณดังกล่าวปรากฏเป็นที่ดินสาธารณะเป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ และปรากฏทะเบียนที่สาธารณะ เมื่อปี 2469 เนื้อที่ 4,900 ไร่
สำรวจพบว่ายังไม่มีการรังวัดเพื่อขึ้นทะเบียนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. สภาพที่ดินติดถนนใหญ่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ซึ่งผู้ที่มี ส.ค.1 สามารถนำเอกสารหลักฐานที่มีอยู่พิสูจน์สิทธิ รังวัดสอบสวนสิทธิ หาก ส.ค.1 อยู่ในแนวเขตทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ต้องมีการพิสูจน์ว่ามีการครอบครองก่อนกำหนดให้เป็นพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์หรือไม่ ซึ่งหากประชาชนท่านใดต้องการทราบรายละเอียดก่อนจะดำเนินการรังวัดเพื่อพิสูจน์สิทธิการครอบครองสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่สำนักงานที่ดินสาขาท้ายเหมือง
จากกรณีชาวบ้านบ้านบางคลี ต.นาเตย จ.พังงา กว่า 400 ครัวเรือน เรียกร้องขอออกโฉนดที่ดินที่มีการกันแนวพื้นที่เป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ เกือบ 5,000 ไร่ วันนี้ นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี พร้อมด้วย นายปรารถนา ดำทน กำนันตำบลนาเตย นายวิชัย ก้องจันทร์สว่าง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง เข้าร่วมชี้แจงให้ชาวบ้านบางคลี รับทราบถึงสภาพการครอบครองที่ดินบริเวณที่ดินทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์บ้านบางคลี ซึ่งมีการกันแนวพื้นที่ จำนวน 4,900 ไร่ ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2469 ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านบางคลี ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
โดยมีชาวบ้านเข้ารับฟังจำนวนมาก เนื่องจากชาวกว่า 400 ครัวเรือน ต้องการให้ภาครัฐออกโฉนดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่มีการถือครองกรรมสิทธิ์เป็น ส.ค.1 และ ส.ป.ก.4-01 โดยเฉพาะ ส.ค.1 ที่ภาครัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าแจ้งที่ดินทำกินไว้ตั้งแต่ปี 2497 หากมีการพิสูจน์ได้ว่าสิทธิการครอบครองมีมาก่อนปี 2469 ทางสำนักงานที่ดินอำเภอท้ายเหมืองพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อออกเอกสารสิทธิในการครอบครองให้แก่ชาวบ้านได้ ขณะทางชาวบ้านในพื้นที่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนกว่า 400 ครัวเรือน บางครัวเรือนได้ตั้งรกรากอาศัยมานานกว่า 60 ปี จึงต้องการให้ภาครัฐเข้าดำเนินการออกเอกสารสิทธิเพื่อที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกิน
นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า การประชุมหมู่บ้านบางคลี ตนเองได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าชี้แจง กรณี ส.ค.1 ที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ไม่สามารถนำสู่การออกโฉนดให้แก่ชาวบ้านได้ เนื่องจากที่ดินจำนวนประมาณ 4,900 ไร่ มีการกันแนวเขตไว้เป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์มาก่อนหน้านี้ ขณะที่ผ่านมา ภาครัฐได้เข้ามาดำเนินการออกเอกสารสิทธิเป็น ส.ป.ก.4-01 ซึ่งทางชาวบ้านไม่ต้องการเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่อ้างที่ดินดังกล่าวว่าเป็น ส.ค.1 โดยครอบครองมานานแล้ว
ด้าน นายวิชัย ก้องจันทร์สว่าง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง กล่าวว่า สภาพพื้นที่ในตำบลนาเตย มีสภาพปะปนกันระหว่างที่ดินของรัฐและที่ดินเอกชน ซึ่งตนเองได้ถูกเชิญให้ทำความเข้าใจสภาพที่ดินของพื้นที่บ้านบางคลี โดย ส.ค.1 คือ หนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 กำหนดให้ประชาชนทุกคนแจ้ง ส.ค.1 ขณะบริเวณดังกล่าวปรากฏเป็นที่ดินสาธารณะเป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ และปรากฏทะเบียนที่สาธารณะ เมื่อปี 2469 เนื้อที่ 4,900 ไร่
สำรวจพบว่ายังไม่มีการรังวัดเพื่อขึ้นทะเบียนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. สภาพที่ดินติดถนนใหญ่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ซึ่งผู้ที่มี ส.ค.1 สามารถนำเอกสารหลักฐานที่มีอยู่พิสูจน์สิทธิ รังวัดสอบสวนสิทธิ หาก ส.ค.1 อยู่ในแนวเขตทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ต้องมีการพิสูจน์ว่ามีการครอบครองก่อนกำหนดให้เป็นพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์หรือไม่ ซึ่งหากประชาชนท่านใดต้องการทราบรายละเอียดก่อนจะดำเนินการรังวัดเพื่อพิสูจน์สิทธิการครอบครองสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่สำนักงานที่ดินสาขาท้ายเหมือง
