ตรัง - รพ.สต.บ้านกะลาเส จ.ตรัง นำร่องตรวจเลือดเกษตรกร ค้นหาความเสี่ยงสุขภาพจากภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และส่งเสริมสุขภาพลดเสี่ยงลดโรค พร้อมขึ้นป้ายสนับสนุนแบน 3 สารเคมีอันตราย
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกะลาเส (รพ.สต.) ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง พบว่า ทาง รพ.สต.ได้ขึ้นป้ายสนับสนุนยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด ประกอบด้วย คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโซเซต และหลังจากที่ผ่านมา รพ.สต.บ้านกะลาเส ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 5 มีครัวเรือนทั้งหมด 321 ครัวเรือน ประชากร 1,354 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำเกษตรกรรม ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน และยางพารา ซึ่งต้นทุนการผลิตในการทำสวนสูงมาก เกษตรกรจึงนิยมใช้สารเคมีในการปราบศัตรูพืช
ดังนั้น เมื่อมีการใช้สารเคมีก็ย่อมจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ รพ.สต.บ้านกะลาเส จึงได้นำร่องเป็น รพ.สต.แรกในการทำโครงการตรวจคัดกรองค้นหาความเสี่ยงสุขภาพประชาชนจากภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และส่งเสริมสุขภาพลดเสี่ยงลดโรค โดยการเจาะเลือดเกษตรกรชาวสวนเพื่อไปหาสารเคมีตกค้างในเลือดมาตั้งแต่ปี 2561
นายชาติชาย สุทธิธรรมานนท์ ผอ.รพ.สต.บ้านกะลาเส กล่าวว่า ถือเป็น รพ.สต.แรกของ จ.ตรัง ที่นำร่องในการเจาะเลือดหาสารเคมีตกค้างในเลือดของเกษตรกรมาตั้งแต่ปี 2561 โดยทำการเจาะเลือดเกษตรกรทั้งหมด 100 คน ทั้งนี้ พบว่าไม่ปลอดภัย 10 คน มีความเสี่ยง 30 คน จึงต้องเข้าระบบการดูแลรักษาร่างกาย และให้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีป้องกันการเข้าสู่ร่างกายเพิ่ม
ทั้งนี้ งานวิจัยทางวิชาการระบุชัดว่า หากสารเคมีเหล่านี้ตกค้างอยู่ในเลือดเป็นเวลานาน จะเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เพราะสารเคมีจะส่งผลเสียต่อเซลล์ในร่างกายให้เกิดความผิดปกติ จึงเกิดโรคต่างๆ ทั้งความดัน เบาหวาน และมะเร็ง และในปี 2562 ทำโครงการเจาะเลือดเกษตรกรต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เป้าหมายเพิ่มเป็น 200 คน แต่ปรากฏว่าประชาชนตื่นตัวมาขอตรวจเกินจำนวน หลังพบเพื่อนบ้านเจอสารเคมีปนเปื้อนในเลือด
ซึ่งพบว่าใน 200 คนดังกล่าว พบเลือดปกติ 39 คน ปลอดภัย 104 คน มีความเสี่ยงอันตรายจากสารเคมีในเลือด 49 คน ไม่ปลอดภัย 9 คน จากนั้น รพ.สต.นำประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดเข้าระบบการดูแลรักษา มีการตรวจเลือดซ้ำเพื่อเฝ้าระวัง และจะทำโครงการต่อเนื่องทุกปี เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพให้แก่เกษตรกรชาวสวน และในการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้าน ทาง รพ.สต.ก็ออกให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง และรณรงค์แนะนำให้ประชาชนเลิกใช้สารเคมีอีกต่อไป
โดยเฉพาะสารเคมีทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนกับการปฏิบัติตนให้พ้นจากสารเคมีปนเปื้อนที่มากับอาหาร ทั้งพืชผักต่างๆ ก่อนนำไปปรุงอาหาร โดยมีการแจกคู่มือให้ความรู้ทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีต่างๆ