ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สองสามีภรรยาใน จ.สงขลา ตัดสินใจโค่นยาง 1 ไร่ หันปลูก “มะละกอเรดเลดี้” 250 ต้น เป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้เดือนละ 25,000 บาท เผยดีกว่าปลูกยางพาราที่ราคาตกต่ำ และมีรายได้ต่อไร่เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท
นายจำรูญ รุ่งเรือง อายุ 47 ปี พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ อบต.ทุ่งหวัง และนางเยาวดี รุ่งเรือง อายุ 45 ปี ครูชำนาญการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ สองสามีภรรยา ได้ตัดสินใจโค่นสวนยางพาราทิ้ง จำนวน 1 ไร่ หลังจากราคายางตกต่ำ และเปลี่ยนมาปลูก “มะละกอเรดเลดี้” จำนวน 250 ต้น เป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้แทนยางพารา
โดยเริ่มปลูกมาตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ใช้ระยะเวลา 6 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และเก็บขายมาทั้งสิ้น 30 ครั้งแล้ว สร้างรายได้เสริมเป็นกอบเป็นกำให้แก่ครอบครัวเดือนละ 25,000 บาท เนื่องจากมีตลาดรองรับ ส่งขายให้โรงพยาบาลสงขลา และในพื้นที่ตลาดสวนตูล ซึ่งทางแม่ค้าสั่งเข้ามา และจะเก็บสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผลผลิตออกมาเท่าไหร่แม่ค้ารับซื้อทั้งหมด ในราคากิโลกรัมละ 25 บาท และใช้เพียงเวลาว่างในช่วงเย็นหลังเลิกงาน เข้ามาดูแลที่สวนมะละกอทุกวัน
ขณะเดียวกัน ในช่วงนี้นักเรียนโรงเรียนปิดเทอม ลูกสาวและลูกชายก็เข้ามาช่วยเก็บมะละกอด้วยทุกครั้ง เพื่อจะได้เรียนรู้ และสัมผัสของจริงในสิ่งที่พ่อแม่หาเงินมาส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือ เพื่อให้เด็กรู้ถึงคุณค่าของเงินที่หามาได้
นายจำรูญ กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบรายได้ระหว่างยางพารากับมะละกอเรดเลดี้บนพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกยางพารารายได้ต่อเดือนไม่เกิน 1,000 บาท และต้องรอถึง 7 ปีกว่าจะกรีดได้ แต่ปลูกมะละกอ 1 ไร่ รายได้เดือนละ 25,000 บาท และใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวเพียง 6 เดือน และสามารถเก็บเกี่ยวไปได้ถึง 2 ปีครึ่ง หากใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 09-3579-1408 ยินดีให้คำปรึกษาทุกเวลา