กระบี่ - ร้อนระอุ ! ชาวบ้านเกาะพีพีจัดเวทีเสวนาจี้ อุทยานแจงถือครองที่ดิน ในเขตอุทยานพีพีขอความชัดเจนเรื่องสิทธิครอบครอง ขณะที่ ส.ส.ลงรับเรื่อง นำปัญหา เข้าสภาฯ ด้านอุทยานฯ เผย อีก 270 วันรู้ผล

วันนี้ ( 8 ต.ค.) ที่โรงแรมอ่าวนางภูพิมาน รีสอร์ท แอนด์สปา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ชาวบ้านเกาะพีพี จ.กระบี่ ได้รวมตัวกันจัดเวทีเสวนาชี้แจงการถือสิทธิครอบรองที่ดินบนเกาะพีพี หลัง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เปิดโอกางให้ชาวบ้านแจ้งสิทธิการครอบครองที่ดิน แต่ยังไม่มีความชัดเจน มีชาวบ้านเกาะพีพี และนายธีระศักดิ์ ขนานใต้ อดีต กำนันตำบลอ่าวนาง เข้าร่วมเวทีประมาณ 150 คน โดยนายสาคร เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นายศรัทธา ทองคำ นายอำเภอเมืองกระบี่ และ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ร่วมให้ข้อมูล
นายสาคร เกี่ยวข้อง กล่าวว่า หลังจากที่ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เปิดให้ชาวบ้านเกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน เพื่อออกสำรวจ ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 แต่หลังจากที่สำรวจเสร็จ เรื่องก็เงียบหายไป ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกขับไล่ออกจากที่ดินที่เคยครอบครอง จึงได้จัดให้มีเวทีขึ้น

นายสาคร กล่าวด้วยว่า ที่ดินบนเกาะพีพี ร้อยละ 90 อยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และเข้าทำประโยชน์ได้ ซึ่งตนทราบปัญหามานาน และจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่าการถือครองที่ดินในเขตอุทยานฯไม่ได้มีแต่เฉพาะ จ.กระบี่ แต่เนื่องจากเกาะพีพี ที่ดินมีมูลค่าสูงมาก การตรวจสอบที่ดิน หรืออะไรก็ตามที่ทีผลกระทบกับชาวบ้าน จะต้องให้คนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
ที่ผ่านมากรมอุทยานฯมีการประกาศเขตทับที่ชาวบ้านก็มี และบางแห่งราษฎรบุกที่รัฐก็มี ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการบุกที่ที่ดินของรัฐบนเกาะพีพี โดยการที่อุทยานฯได้ให้ชาวบ้านลงชื่อเพื่อเดินสำรวจที่ดิน ว่ามีใครครอบครองตรงไหน เท่าไร จะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญ จนท.รัฐควรจะใช้แผนที่ฉบับเดียว ในการตรวจสอบ

นอกจากที่ดินของชาวบ้านแล้วก็ยังมีที่ดินของชาวเล บริเวณ ม.8 เกาะพีพี ทราบว่ามีปัญหาด้วยทั้งการถูกนายทุนบุกรุก และอุทยานฯประกาศทับที่ ตนจะนำเรื่องเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมสภาฯเพื่อหาทางออกต่อไป
ขณะที่นายจักรมงคล ระถะการ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานฯ ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินบนเกาะพีพี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน และสำรวจการครอบครองที่ดิน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่ม หลังจากที่สำรวจเสร็จแล้ว เรื่องก็เงียบหายไป ชาวบ้านไม่ทราบทิศทางต่อไปว่าที่ดินจะได้ครอบครองต่อหรือตกเป็นของรัฐ

จนท.อุทยานฯควรที่จะชี้แจงรายละเอียดให้ชาวบ้านได้มั่นใจด้วยว่า หลังจากที่ชาวบ้านแจ้งชื่อ และเดินสำรวจแล้วจะมีการออกหนังสือรับรองให้ชาวบ้านถือครองที่ดินเข้าทำประโยชน์ได้ โดยไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี และให้ที่ดินสามารถตกทอดไปถึงลูกหลานและที่ดินที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ปัจจุบันก็มีการถือครองมากว่า 3 ชั่วอายุคน
ด้านนางมาลี ชำนินา อายุ 55 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี เจ้าของวิวพ้อยเกาะพีพี กล่าวว่า ตนได้รับมรดก ที่ดินบริเวณดังกล่าวมาจากบิดา และได้ทำกินมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2502 ซึ่งตนอยู่มาก่อนการประกาศเป็นเขตอุทยานฯแต่ทราบภายหลังว่าเมื่อปี 2526 ทางอุทยานฯได้ประกาศเขตอุทยานฯจึงไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ์ได้ ปัจจุบันต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าที่ดินจะเป็นของตนหรือของรัฐในอนาคต
ด้านนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวว่า การสำรวจที่ดินบนเกาะพีพี เป็นพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานฯ ของจังหวัดกระบี่ โดยใช้ภาพถ่ายปี 2545 ตรวจสอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งจะไม่มีการยึดคืนพื้นที่อย่างแน่นอนตามที่ราษฎรเป็นกังวล และอีกประมาณ 270 วัน ชาวบ้านที่อยู่ในเขตอุทยานฯก็จะทราบทิศทางที่แน่นอนในการดำเนินการต่อไป
วันนี้ ( 8 ต.ค.) ที่โรงแรมอ่าวนางภูพิมาน รีสอร์ท แอนด์สปา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ชาวบ้านเกาะพีพี จ.กระบี่ ได้รวมตัวกันจัดเวทีเสวนาชี้แจงการถือสิทธิครอบรองที่ดินบนเกาะพีพี หลัง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เปิดโอกางให้ชาวบ้านแจ้งสิทธิการครอบครองที่ดิน แต่ยังไม่มีความชัดเจน มีชาวบ้านเกาะพีพี และนายธีระศักดิ์ ขนานใต้ อดีต กำนันตำบลอ่าวนาง เข้าร่วมเวทีประมาณ 150 คน โดยนายสาคร เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นายศรัทธา ทองคำ นายอำเภอเมืองกระบี่ และ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ร่วมให้ข้อมูล
นายสาคร เกี่ยวข้อง กล่าวว่า หลังจากที่ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เปิดให้ชาวบ้านเกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน เพื่อออกสำรวจ ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 แต่หลังจากที่สำรวจเสร็จ เรื่องก็เงียบหายไป ชาวบ้านเกรงว่าจะถูกขับไล่ออกจากที่ดินที่เคยครอบครอง จึงได้จัดให้มีเวทีขึ้น
นายสาคร กล่าวด้วยว่า ที่ดินบนเกาะพีพี ร้อยละ 90 อยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และเข้าทำประโยชน์ได้ ซึ่งตนทราบปัญหามานาน และจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่าการถือครองที่ดินในเขตอุทยานฯไม่ได้มีแต่เฉพาะ จ.กระบี่ แต่เนื่องจากเกาะพีพี ที่ดินมีมูลค่าสูงมาก การตรวจสอบที่ดิน หรืออะไรก็ตามที่ทีผลกระทบกับชาวบ้าน จะต้องให้คนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
ที่ผ่านมากรมอุทยานฯมีการประกาศเขตทับที่ชาวบ้านก็มี และบางแห่งราษฎรบุกที่รัฐก็มี ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการบุกที่ที่ดินของรัฐบนเกาะพีพี โดยการที่อุทยานฯได้ให้ชาวบ้านลงชื่อเพื่อเดินสำรวจที่ดิน ว่ามีใครครอบครองตรงไหน เท่าไร จะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญ จนท.รัฐควรจะใช้แผนที่ฉบับเดียว ในการตรวจสอบ
นอกจากที่ดินของชาวบ้านแล้วก็ยังมีที่ดินของชาวเล บริเวณ ม.8 เกาะพีพี ทราบว่ามีปัญหาด้วยทั้งการถูกนายทุนบุกรุก และอุทยานฯประกาศทับที่ ตนจะนำเรื่องเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมสภาฯเพื่อหาทางออกต่อไป
ขณะที่นายจักรมงคล ระถะการ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานฯ ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินบนเกาะพีพี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน และสำรวจการครอบครองที่ดิน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่ม หลังจากที่สำรวจเสร็จแล้ว เรื่องก็เงียบหายไป ชาวบ้านไม่ทราบทิศทางต่อไปว่าที่ดินจะได้ครอบครองต่อหรือตกเป็นของรัฐ
จนท.อุทยานฯควรที่จะชี้แจงรายละเอียดให้ชาวบ้านได้มั่นใจด้วยว่า หลังจากที่ชาวบ้านแจ้งชื่อ และเดินสำรวจแล้วจะมีการออกหนังสือรับรองให้ชาวบ้านถือครองที่ดินเข้าทำประโยชน์ได้ โดยไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี และให้ที่ดินสามารถตกทอดไปถึงลูกหลานและที่ดินที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ปัจจุบันก็มีการถือครองมากว่า 3 ชั่วอายุคน
ด้านนางมาลี ชำนินา อายุ 55 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี เจ้าของวิวพ้อยเกาะพีพี กล่าวว่า ตนได้รับมรดก ที่ดินบริเวณดังกล่าวมาจากบิดา และได้ทำกินมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2502 ซึ่งตนอยู่มาก่อนการประกาศเป็นเขตอุทยานฯแต่ทราบภายหลังว่าเมื่อปี 2526 ทางอุทยานฯได้ประกาศเขตอุทยานฯจึงไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ์ได้ ปัจจุบันต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าที่ดินจะเป็นของตนหรือของรัฐในอนาคต
ด้านนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวว่า การสำรวจที่ดินบนเกาะพีพี เป็นพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานฯ ของจังหวัดกระบี่ โดยใช้ภาพถ่ายปี 2545 ตรวจสอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งจะไม่มีการยึดคืนพื้นที่อย่างแน่นอนตามที่ราษฎรเป็นกังวล และอีกประมาณ 270 วัน ชาวบ้านที่อยู่ในเขตอุทยานฯก็จะทราบทิศทางที่แน่นอนในการดำเนินการต่อไป