ศูนย์ข่าวภาคใต้ - อดีตอธิการบดี ม.ศิลปากร แนะ “อลงกรณ์” โจทย์หลักของประมงคือความยั่งยืนของทรัพยากรทั้งชายฝั่งและในทะเล ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่รัฐต้องปกป้อง แนะให้ร่วมมือกับประมงพื้นบ้าน ด้านอลงกรณ์ ย้ำประมงพื้นบ้านต้องช่วยกัน ยันสู้กับทุนผูกขาดมาแล้ว ไม่เลือกปฏิบัติ
ดร.อุทัย ดุลยเกษม อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เขียนถึงนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับเรื่องการทำประมงของไทยในโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายบรรจง นะแส อดีตนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ว่า โจทย์หลักของการประมงมิใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่โจทย์หลักคือความยั่งยืนของทรัพยากรชายฝั่งและทรัพยากรในทะเล ฉะนั้น การคิดหาทางแก้ปํญหาจะต้องตอบโจทย์หลักดังกล่าว ด้วยเหตุดังนั้น ประเด็นจึงมิได้อยู่ที่ว่ากลุ่มไหนจะได้ประโยชน์มากกว่า ในฐานะบทบาทของรัฐสิ่งที่ต้องทำคือการปกป้องรักษาและดูแลทรัพยากรชายฝั่งและทรัพยากรในทะเลให้สมบูรณ์และยั่งยืน
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้มาตอบว่า “ประมงพื้นบ้านต้องช่วยกันครับ พื้นบ้านแถบอำเภอบ้านแหลมเผชิญปัญหาเหมือนกับทุกที่ ผมอธิบายความและชี้แจงให้พี่บรรจงเข้าใจไม่ใช่กล่าวว่าเราไปอิงนายทุนซึ่งพูดเฉียดแบบนี้เป็นใครก็ต้องอธิบายกันหน่อย ก็เท่านั้นเอง ผมสู้กับทุนผูกขาดมาแล้ว กรณีนครศรีธรรมราชเป็นตัวอย่างกรณีจับเรือประมงพาณิชย์ทั้งไทยและมาเลเซียที่ละเมิดกฎหมายเป็นตัวอย่างของการไม่เลือกปฏิบัติ”
จากนั้น ดร.อุทัย ได้มาเขียนตอบว่า “ผมไม่ใช่ชาวประมงและไม่มีใครในเครือญาติทำการประมง แต่ผมมีความเห็นว่า คุณอลงกรณ์มีโอกาสดีมากที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีให้ดูแลเรื่องการประมง เพราะผมคิดว่าถ้าเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของรัฐบาลนี้ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม (Social inequalities) ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงมากและรัฐบาลได้ยอมรับแล้วนั้น การจัดการเรื่องการประมงจะเป็นแนวทางที่สำคัญมากประการหนึ่งที่จะช่วยให้นโยบายของรัฐบาลสำเร็จทั้งในด้านความยั่งยั่งยืนของระบบนิเวศทางทะเล การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเรื่องความมั่นคงทางอาหาร กล่าวได้ว่าถ้าจัดการเรื่องประมงให้ดี จะเท่ากับยิงนกด้วยกระสุนนัดเดียวได้นกสามตัว ดังคำโบราณกล่าวไว”
“ผมจึงสนับสนุนให้คุณอลงกรณ์ใช้โอกาสอันวิเศษนี้ทำงานนี้ให้สำเร็จและจะเป็นคุณูปการต่อสังคมไทยและต่อชาวประมงที่ต้องอาศัยการจับสัตว์น้ำเลี้ยงชีพอย่างมหาศาล และหนทางที่จะหนุนให้คุณอลงกรณ์ทำงานนี้ได้สำเร็จคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำงานร่วมกับชาวประมงชายฝั่งครับ เพราะชาวประมงชายฝั่งรู้ดีว่าถ้าพวกเขาไม่ปกป้องรักษาและดูแลทรัพยากรชายฝั่งหรือระบบนิเวศชายฝั่ง พวกเขาจะไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ด่วยการทำการประมงอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่าคุณอลงกรณ์ทราบในสิ่งเหล่านี้ดี ขอแต่เพียงการตัดสินใจอย่างมีความกล้าหาญทางจริยธรรม ดังที่หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ในรัฐบาลของนายควง อภัยวงศ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวไว้นั้นแล”