ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หญิงสาววัย 44 ปี ก่อเหตุขโมยครีมทาหน้า และยาทาเล็บ ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นกลางเมืองหาดใหญ่ หนีไม่รอดถูกพนักงานจับได้ อ้างแค่อยากสวยเพราะเพิ่งถูกสามีทิ้งไป แต่ด้วยความจนเงินไม่พอจึงต้องลงมือขโมย
วันนี้ (3 ต.ค.) พ.ต.ท.รณน สุระวิทย์ รอง ผกก.ป. สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเกิดเหตุลักทรัพย์ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาทุ่งเสา ย่านตลาดทุ่งเสา เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และทางพนักงานได้กักตัวเอาไว้ในร้าน หลังจากไปตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุเป็นหญิงสาวอายุ 44 ปี ชาว ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์ ซึ่งพนักงานได้กักตัวเอาไว้ระหว่างรอตำรวจมาถึง โดยยืนถือถุงใส่ของซึ่งข้างในเป็นครีมทาหน้า 1 กล่อง และยาทาเล็บอีก 1 กล่อง ที่แอบหยิบมาจากชั้นวางสินค้า มูลค่าสินค้ารวมกัน 120 บาท
ตำรวจจึงได้สอบถามหญิงสาวคนนี้ ก็ยอมรับสารภาพว่า ขโมยสินค้าจริงเพราะความจนเงินไม่พอ และเพิ่งทำเป็นครั้งแรกด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เหตุที่ขโมยครีมทาหน้า และยาทาเล็บ เพราะอยากสวยเหมือนกับคนอื่น เนื่องจากตนเพิ่งถูกสามีทิ้งไปเมื่อราว 5 เดือนก่อน จากรูปร่างที่อ้วน รวมทั้งที่มือ และเท้ายังถูกน้ำกัดเป็นแผล จากการทำงานเป็นลูกจ้างร้านทำเต้าหู้ ซึ่งมีรายได้แค่วันละ 200 บาท แถมยังมีหนี้สินอีก
แต่จากการเปิดเผยของพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งนี้ บอกว่าหญิงสาวคนนี้เข้ามาขโมยสินค้าในร้านเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ขโมยยาแก้ไอไป 1 ขวด แต่จับไม่ทัน และออกจากร้านไปได้ก่อน จึงได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดเอาไว้ และวันนี้พอหญิงสาวคนนี้เดินเข้ามาในร้านก็จำได้ทันที แต่ปล่อยให้เดินเลือกซื้อสินค้า และไปดูพฤติกรรมจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าได้แอบขโมยของอีกจึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุม
ทั้งนี้ หลังจากจนมุมหญิงสาวคนนี้พยายามอ้อนวอนไม่ให้จับกุม อ้างยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูอีก 2 คน และลูกกำลังไม่สบายจะมาซื้อยากลับไปให้ลูกด้วย ตำรวจจึงให้คุยกับเจ้าของร้านทางโทรศัพท์ ซึ่งหญิงสาวคนนี้ก็อ้อนวอนขอโอกาส และสัญญาจะกลับตัวกลับใจ และเจ้าของร้านก็ใจดียอมให้โอกาส และไม่ดำเนินคดี แต่ให้จ่ายค่าสินค้าทั้ง 2 ชิ้นที่ขโมยมา และหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้นำตัวหญิงสาวคนนี้ไปทำประวัติเอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไม่ให้ก่อเหตุลักทรัพย์ขึ้นอีก