ศูนย์ข่าวภูเก็ต - มาฟังความ 2 ด้าน เปิดกรณีพิพาทนายทุนดิ้นออกเอกสารสิทธิ-ทนายความคนสนิท หลังแตกหักแยกทางกันเดิน ต่างฝ่ายต่างออกมาแฉ ใครหลอกใครกันแน่
จากกรณีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้นเมื่อ นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัทภูเขาหกลูก จำกัด ซึ่งเคยมีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะนาคาน้อย จ.ภูเก็ต กับตระกูล “หิรัญพฤกษ์” ของดาราดัง “ภูริ หิรัญฤกษ์” ที่เดิมครอบครอบที่ดินบนเกาะประมาณ 50 ไร่ ออกมายื่นหนังสือร้องเรียนและแจ้งความ ถูกทนายความหลอกให้ซื้อที่บนเกาะนาคาน้อย พร้อมวิ่งเต้นเพื่อออกเอกสารสิทธิแต่ไม่สามารถออกได้ ทำให้สูญเงินไปกว่า 80 ล้านบาท แต่เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดินภูเก็ต จึงได้รู้ความจริงว่าโดนหลอก
ขณะที่นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ หรือทนายกร ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ ว่า สิ่งที่นายชาญวิทย์ ออกมาแถลงนั้นเป็นการให้ร้ายตนเอง ตนไม่ได้รับจ้างวิ่งเต้นออกเอกสารสิทธิที่ดิน แต่นายชาญวิทย์ ได้ว่างจ้างด้วยวงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเพิกถอนที่ดินของตระกูลดาราดังที่ตั้งอยู่ติดกับที่ดินของนายชาญวิทย์ แต่เมื่อทำงานแล้วเสร็จกลับไม่ได้รับค่าจ้างจากนายชาญวิทย์ แต่อย่างใด และมาเพิ่มค่าจ้างขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำที่ดินอีกแปลงหนึ่งของนายชาญวิทย์ บนเกาะนาคาน้อย ที่มีหลักฐานเป็น ภ.บ.ท.5 ที่รวบรวมมาจากผู้ที่ครอบครองที่ดินบนเกาะนาคาน้อยก่อนหน้านี้ เนื้อที่ 50 ไร่ มาออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการจนทำให้นายชาญวิทย์ เข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้
สำหรับเรื่องนี้จะต้องมาฟังความทั้ง 2 ฝ่าย ว่า เกิดอะไรขึ้น ระหว่างนายชาญวิทย์ และทนายกร จนทำให้เกิดความแตกหัก จากคนที่รักกันมาก ดูแลกันเป็นอย่างดีมาถึงวันนี้ทางหันหลังกันเดิน จนถึงขั้นต่างฝ่ายต่างแจ้งความดำเนินคดีกัน
จากกรณีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้นเมื่อ นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัทภูเขาหกลูก จำกัด ซึ่งเคยมีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะนาคาน้อย จ.ภูเก็ต กับตระกูล “หิรัญพฤกษ์” ของดาราดัง “ภูริ หิรัญฤกษ์” ที่เดิมครอบครอบที่ดินบนเกาะประมาณ 50 ไร่ ออกมายื่นหนังสือร้องเรียนและแจ้งความ ถูกทนายความหลอกให้ซื้อที่บนเกาะนาคาน้อย พร้อมวิ่งเต้นเพื่อออกเอกสารสิทธิแต่ไม่สามารถออกได้ ทำให้สูญเงินไปกว่า 80 ล้านบาท แต่เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดินภูเก็ต จึงได้รู้ความจริงว่าโดนหลอก
ขณะที่นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ หรือทนายกร ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ ว่า สิ่งที่นายชาญวิทย์ ออกมาแถลงนั้นเป็นการให้ร้ายตนเอง ตนไม่ได้รับจ้างวิ่งเต้นออกเอกสารสิทธิที่ดิน แต่นายชาญวิทย์ ได้ว่างจ้างด้วยวงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเพิกถอนที่ดินของตระกูลดาราดังที่ตั้งอยู่ติดกับที่ดินของนายชาญวิทย์ แต่เมื่อทำงานแล้วเสร็จกลับไม่ได้รับค่าจ้างจากนายชาญวิทย์ แต่อย่างใด และมาเพิ่มค่าจ้างขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำที่ดินอีกแปลงหนึ่งของนายชาญวิทย์ บนเกาะนาคาน้อย ที่มีหลักฐานเป็น ภ.บ.ท.5 ที่รวบรวมมาจากผู้ที่ครอบครองที่ดินบนเกาะนาคาน้อยก่อนหน้านี้ เนื้อที่ 50 ไร่ มาออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการจนทำให้นายชาญวิทย์ เข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้
สำหรับเรื่องนี้จะต้องมาฟังความทั้ง 2 ฝ่าย ว่า เกิดอะไรขึ้น ระหว่างนายชาญวิทย์ และทนายกร จนทำให้เกิดความแตกหัก จากคนที่รักกันมาก ดูแลกันเป็นอย่างดีมาถึงวันนี้ทางหันหลังกันเดิน จนถึงขั้นต่างฝ่ายต่างแจ้งความดำเนินคดีกัน