สุราษฎร์ธานี - สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวนบุกร้องผู้การสุราษฎร์ธานี หลังจากฝากเงินมาทั้งชีวิต ถึงเวลาขอถอนเงินกลับไม่ได้ แจ้งความ ตร.ไม่รับแจ้งแถมร้อยเวรบอกให้ไปหาความผิดของคณะกรรมการมาก่อน
วันนี้ ( 30 ก.ย.) ที่สำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีตัวแทนสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 11 คน จากผู้เสียหายจำนวน 32 คน เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ผู้ต่อ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแจ้งว่าถูกคณะกรรมการยักยอกเงินรวม 1,600,000 บาทเศษ ทางผู้บังคับการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับเรื่องและให้ดำเนินการช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายให้เร็วที่สุด
ตัวแทนได้ระบุ ว่า ชาวบ้านเกาะยวนหมู่ที่ 1และ หมู่ที่ 7บ้านเกาะยวน ตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 444 คนได้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน โดยมีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก ได้ฝากเงินสะสมกับกลุ่มออมทรัพย์มาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี ไม่เคยเบิกไม่เคยกู้ โดยมีหลักฐานการรับฝากเป็นสมุดบัญชี คล้ายบัญชีสหกรณ์สีชมพูเป็นหลักฐาน มีการระบุการฝากเงินไว้อย่างชัดเจน
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาชาวบ้านบางคนต้องการปิดบัญชีถอนเงินคืน และ ได้แจ้งล่วงหน้าตามข้อบังคับของกลุ่มที่ระบุไว้ แจ้งล่วงหน้า 3 เดือน แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่าคณะกรรมการไม่ยินยอมจ่ายคืนให้ บอกว่าสหกรณ์ไม่มีเงินเหลือแล้ว โดยอ้างว่าปล่อยเงินให้สมาชิกกู้ และ สมาชิกที่กู้ไปไม่จ่ายเงินคืน ซึ่งสมาชิกคอยเงินมาเป็นเวลานานนับปีก็ไม่ได้ ได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคีรีรัฐนิคมและศูนย์ยุติธรรมจังหวัด ทางยุติธรรมจังหวัดได้ออกหนังสือเชิญคณะกรรมถึง 2 ครั้งแต่ไม่มีใคร มาจึงแทงเรื่องยุติและแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
เมื่อไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม ทางพนักงานสอบสวนกลับบอกว่า ในเบื้องต้นไม่พบการกระทำความผิดของคณะกรรมการ และ บอกให้ผู้เสียหายกลับไปหาความผิดมาก่อนแล้วค่อยมาแจ้งความ หากจะแจ้งตอนนี้จะถูกกรรมกลุ่มฯแจ้งความกลับได้ ในข้อหาแจ้งความเท็จ จึงเดินทางมาขอพึ่งบารมีผู้บังคับการตำรวจสุราษฎร์ธานีเพื่อขอความช่วยเหลือให้ได้เงินคืน
นางสาวอมรรัตน์ ประตูใหญ่ นางสาวทัศนีย์ ประตูใหญ่ และนางลาวัลย์ ประตูใหญ่ ผู้เสียหายทั้ง 3 คน กล่าวว่า ได้ฝากเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 313,500 บาท โดยไม่ได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกมาใช้เลย และ เมื่อปี 2561 มีความเดือดร้อนต้องการใช้เงินและปิดบัญชี ได้แจ้งล่วงหน้าแก่กรรมการแล้วแต่จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ยังถอนเงินไม่ได้เลย และที่เข้าร้องเรียนตำรวจให้ช่วยเหลือต้องการเงินคืนเท่านั้นไม่ได้ต้องการดำเนินคดีกับกรรมการแต่อย่างใด
หลังจากตรวจสอบข้อมูลและเอกสารแล้ว พ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เรียกรองผู้กำกับการหัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม มารับเรื่องพร้อมให้ประสานนายอำเภอคีรีรัฐนิคม ตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการดำเนินการของกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน พร้อมรายงานให้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทราบ เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป
ซึ่งในเบื้องต้น พบว่ากลุ่มออมทรัพย์มิได้จะทะเบียนตามกฏหมายอาจมีความผิดตั้งสถาบันการเงินเถื่อน และ การปล่อยกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 2 ต่อเดือน เกินกฎหมายที่กำหนด แต่ในเบื้องต้นต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมหาทางออกร่วมกันเพื่อกลุ่มออมทรัพย์ฯเพื่อที่ สมาชิกไม่เดือดร้อน
วันนี้ ( 30 ก.ย.) ที่สำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีตัวแทนสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 11 คน จากผู้เสียหายจำนวน 32 คน เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ผู้ต่อ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแจ้งว่าถูกคณะกรรมการยักยอกเงินรวม 1,600,000 บาทเศษ ทางผู้บังคับการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับเรื่องและให้ดำเนินการช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายให้เร็วที่สุด
ตัวแทนได้ระบุ ว่า ชาวบ้านเกาะยวนหมู่ที่ 1และ หมู่ที่ 7บ้านเกาะยวน ตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 444 คนได้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน โดยมีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก ได้ฝากเงินสะสมกับกลุ่มออมทรัพย์มาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี ไม่เคยเบิกไม่เคยกู้ โดยมีหลักฐานการรับฝากเป็นสมุดบัญชี คล้ายบัญชีสหกรณ์สีชมพูเป็นหลักฐาน มีการระบุการฝากเงินไว้อย่างชัดเจน
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาชาวบ้านบางคนต้องการปิดบัญชีถอนเงินคืน และ ได้แจ้งล่วงหน้าตามข้อบังคับของกลุ่มที่ระบุไว้ แจ้งล่วงหน้า 3 เดือน แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่าคณะกรรมการไม่ยินยอมจ่ายคืนให้ บอกว่าสหกรณ์ไม่มีเงินเหลือแล้ว โดยอ้างว่าปล่อยเงินให้สมาชิกกู้ และ สมาชิกที่กู้ไปไม่จ่ายเงินคืน ซึ่งสมาชิกคอยเงินมาเป็นเวลานานนับปีก็ไม่ได้ ได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคีรีรัฐนิคมและศูนย์ยุติธรรมจังหวัด ทางยุติธรรมจังหวัดได้ออกหนังสือเชิญคณะกรรมถึง 2 ครั้งแต่ไม่มีใคร มาจึงแทงเรื่องยุติและแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
เมื่อไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม ทางพนักงานสอบสวนกลับบอกว่า ในเบื้องต้นไม่พบการกระทำความผิดของคณะกรรมการ และ บอกให้ผู้เสียหายกลับไปหาความผิดมาก่อนแล้วค่อยมาแจ้งความ หากจะแจ้งตอนนี้จะถูกกรรมกลุ่มฯแจ้งความกลับได้ ในข้อหาแจ้งความเท็จ จึงเดินทางมาขอพึ่งบารมีผู้บังคับการตำรวจสุราษฎร์ธานีเพื่อขอความช่วยเหลือให้ได้เงินคืน
นางสาวอมรรัตน์ ประตูใหญ่ นางสาวทัศนีย์ ประตูใหญ่ และนางลาวัลย์ ประตูใหญ่ ผู้เสียหายทั้ง 3 คน กล่าวว่า ได้ฝากเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 313,500 บาท โดยไม่ได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกมาใช้เลย และ เมื่อปี 2561 มีความเดือดร้อนต้องการใช้เงินและปิดบัญชี ได้แจ้งล่วงหน้าแก่กรรมการแล้วแต่จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ยังถอนเงินไม่ได้เลย และที่เข้าร้องเรียนตำรวจให้ช่วยเหลือต้องการเงินคืนเท่านั้นไม่ได้ต้องการดำเนินคดีกับกรรมการแต่อย่างใด
หลังจากตรวจสอบข้อมูลและเอกสารแล้ว พ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เรียกรองผู้กำกับการหัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม มารับเรื่องพร้อมให้ประสานนายอำเภอคีรีรัฐนิคม ตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการดำเนินการของกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะยวน พร้อมรายงานให้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทราบ เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป
ซึ่งในเบื้องต้น พบว่ากลุ่มออมทรัพย์มิได้จะทะเบียนตามกฏหมายอาจมีความผิดตั้งสถาบันการเงินเถื่อน และ การปล่อยกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 2 ต่อเดือน เกินกฎหมายที่กำหนด แต่ในเบื้องต้นต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมหาทางออกร่วมกันเพื่อกลุ่มออมทรัพย์ฯเพื่อที่ สมาชิกไม่เดือดร้อน
