กระบี่ - ป่าไม้ที่ 12 กระบี่ สนธิกำลังชุดพยัคฆ์ไพร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย เข้ายึดสวนปาล์มหมดสัมปทาน ของ บ.ยูนิวานิช น้ำมันปาล์ม ในเนื้อที่ 2 หมื่นไร่ พร้อมเดินหน้ายึดคืนอีก 13 แปลง เนื้อที่กว่า 5 หมื่นไร่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.) นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ พร้อมด้วย นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร นายกฤตกร สุทธิศักดิ์ นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ นายทศพร โชติช่วง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.กระบี่ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายพระยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ร่วม 100 นาย เข้าตรวจยึดคืนพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานของ บ.ยูนิวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) รวมเนื้อประมาณ 2 หมื่นไร่
โดยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึง พบเพียง รปภ.เฝ้าสำนักงาน และรถที่ใช้ในการทำเกษตรสวนปาล์ม ส่วนเจ้าหน้าที่และคนงานของบริษัทฯ ได้ย้ายออกไปก่อนหน้านี้ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ สำนักงาน บ้านพักคนงานกว่า 10 หลัง และแปลงเพาะต้นกล้าปาล์มน้ำมัน รวมเนื้อที่กว่า 300 ไร่ พร้อมทำบันทึกตรวจยึดทั้งหมด และประกาศแจ้งเตือนให้ทางบริษัทฯ ดำเนินการขนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นตัวอาคารต่างๆ ให้คงไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
สำหรับพื้นที่ที่บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) เช่าสัมปทานเข้าทำประโยชน์สวนปาล์มน้ำมัน จากกรมป่าไม้ เมื่อปี 2526 เนื้อที่รวม 20,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองปลายพระยา กำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2556 สัญญาเช่าหมดอายุ ครม.มีมติไม่ให้ต่ออายุสัมปทาน และให้เรียกคืนพื้นที่ทั้งหมด ต่อมา บ.ยูนิวานิชฯ ได้ยื่นขออนุญาตเก็บหาของป่าอีก 2 ปี เมื่อหมดสัญญาปี 2558 ทางบริษัทฯ ยื่นขอต่ออายุอีกครั้งแต่กรมป่าไม้ ไม่สามารถต่อสัญญาให้ได้ตามมติ ครม.
ทางบริษัทฯ ยื่นคำร้องต่อศาล จ.กระบี่ ให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยอ้างว่ามีพื้นที่บางส่วนประมาณ 7,108 ไร่ กำลังอยู่ในระหว่างยื่นขอรังวัดเตรียมออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. โดยอ้างว่าบริษัทฯ ยื่นขอสำรวจออกเอกสารสิทธิก่อนมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ศาลจังหวัดกระบี่ จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1123/2561 ให้คุ้มครองชั่วคราว บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ฝ่ายโจทก์ในคดี
โดยห้ามไม่ให้จำเลย (กรมป่าไม้) และบริวารเข้ารบกวนสิทธิในการครอบครองทำประโยชน์ของโจทก์ในที่ดินดังกล่าว และให้โจทก์เข้าทำการปกป้องคุ้มครอง ดูแลบำรุงรักษาให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ฟื้นฟูต้นปาล์มน้ำมัน หรือเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในที่ดินดังกล่าว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ต่อมา กรมป่าไม้ ยื่นคัดค้านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองชั่วคราว และให้ดำเนินการผลักดันผู้ครอบครองออกจากพื้นที่
นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าว เมื่อปี 2504 มีการประกาศเป็นป่าตามมติ ครม. ต่อมาเมื่อปี 2515 มีประกาศให้จำแนกพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวร ห้ามไม่ให้มีการเดินสำรวจ หรือออกเอกสารสิทธิ ต่อมา ปี 2526 กรมป่าไม้ประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองปลายพระยา ดังนั้น พื้นที่บางส่วนที่ทางบริษัทฯ อ้างว่ากำลังดำเนินการออกเอกสารสิทธินั้นไม่สามารถทำได้ ส่วนทางบริษัทฯ อ้าง น.ส.3 ก.ในพื้นที่ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
สำหรับการเข้าตรวจยึดในวันนี้ เป็นไปตามขั้นตอน หลังศาลมีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองชั่วคราว โดยพื้นที่ประมาณ 2 หมื่นไร่ ที่บริษัทฯ เช่าจากกรมป่าไม้ บางส่วนไม่ได้ใช้ทำประโยชน์ ซึ่งกรมป่าไม้ได้เรียกคืนพื้นที่มาแล้วก่อนนี้ ในวันนี้จึงเข้าตรวจยึดพื้นที่บางส่วนที่เป็นแปลงเพาะพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และเป็นที่ตั้งของสำนักงาน เนื้อที่ประมาณ 350 ไร่ หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบแนวเขตที่เป็นสวนปาล์มน้ำมัน อีกประมาณเกือบ 2 หมื่นไร่ ให้เสร็จ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรกับพื้นที่ดังกล่าว ทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้พิจารณาและเมื่อทำการตรวจสอบแนวเขตรังวัดที่ดินแล้วเสร็จ จะมอบให้ทาง สภ.ปลายพระยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า การยึดคืนพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดอายุสัมปทาน ของ บริษัท ยูนิวานิชฯ กลับคืนมาเป็นของรัฐ เนื่องจากหมดอายุสัมปทาน เหมือนกับการเช่าบ้าน เมื่อสัญญาหมดก็ต้องคืนให้แก่เจ้าของ จะอ้างสิทธิเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ามีการออกเอกสารสิทธินั้นก็ต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป แต่เบื้องต้น ยังไม่มีหลักฐานจากบริษัทมาแสดง มีการอ้างเพียงลอยๆ เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพื้นที่ที่ทางกรมป่าไม้ ให้นายทุนสัมปทานสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ จ.กระบี่ รวม 14 แปลง เนื้อที่กว่า 7 หมื่นไร่ ทางกรมป่าไม้จะทยอยยึดคืนมาเป็นของรัฐทั้งหมด เพื่อนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่คนยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน
ในส่วนของผู้เรียกร้องที่ดินทำกินนั้น ขณะนี้ยังคงปักหลักเรียกร้องให้จังหวัดกระบี่ นำที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัปทานแล้วมาจัดสรรให้แก่ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน จนกว่าจะได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับบริษัทยูนิวานิช จำกัด มหาชน ธุรกิจหลัก คือ ดำเนินกิจการสวนปาล์มน้ำมัน และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงกลั่นน้ำมันปาล์มทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์พลอยได้ คือ เมล็ดในปาล์ม กากเมล็ดในปาล์มและกะลาปาล์ม นอกจากนี้ยังผลิตเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสมจำหน่ายให้แก่เกษตรกรทั้งในและต่างประเทศ โดยได้เช่าพื้นที่สัมปทาน ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ อ.ปลาพระยา จ.กระบี่ รวมเนื้อที่ประมาณ 2 หมื่นไร่ ตั้งแต่ปี 2526 มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มใน จ.กระบี่ 1 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.อ่าวลึก