ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เจ้าของรถตู้อัลพาร์ด 1177 สุราษฎร์ธานี คันที่เคยรับนายกฯ เมื่อครั้งมาเยือนเกาะสมุยแจงไม่เกี่ยวข้องกับ “ขาใหญ่ราชายาเสพติด” รับเป็นหลานน้า บ้านติดกันเท่านั้น รถซื้อเองผ่อนเอง พบเป็นเจ้าของบริษัท “เรืองศรี ทราเวล แอนด์ ทัวร์” หุ้นส่วนเคยถูกคอมมานโดกองปราบบุกค้นหลังเกิดเหตุยิงผู้รับเหมารายใหญ่เกาะสมุยเมื่อปี 2558
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ตร.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ป.ป.ส.ภาค 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุมตัวนายสมพงษ์ หรือขลุด เรืองศรี ฉายานายหัว อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 6/2562 ลงวันที่ 16 ม.ค.2562 ข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษและฟอกเงิน ขณะกบดานในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
ปรากฏว่า จากการตรวจค้นของผู้ต้องหาที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1177 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ในโรงจอดรถห่างจากบ้านผู้ต้องหาประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกับที่เคยใช้รับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่เกาะสมุย ไปเยี่ยมชมวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร และบรรดาอดีตแกนนำ กปปส. ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.นั้น
วันนี้ (23 ก.ย.) น.ส.ดารุณี เซ่งฉิม อายุ 42 ปี เจ้าของรถตู้โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1177 สุราษฎร์ธานี คันดังกล่าว ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ตนเป็นญาติกับนายสมพงษ์ กันเท่านั้น โดยนายสมพงษ์ เป็นน้า บ้านอยู่ใกล้กัน รับประกันได้ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด รถยนต์ก็เป็นของตน ซื้อมาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2558 ผ่อนชำระ 60 งวด คนค้ำ 2 คน ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายแน่นอน วันที่ตำรวจนำนายสมพงษ์ มาค้นบ้าน ตนทำงานอยู่ที่ท่าเรือ เมื่อตำรวจเข้ามาบริเวณบ้านพบรถยนต์จอดอยู่ในโรงรถนั้น เพราะรถของตนเองจอดอยู่ใกล้กับบ้านนายสมพงษ์
น.ส.ดารุณี เซ่งฉิม ทำธุรกิจเป็นเจ้าของบริษัท เรืองศรี ทราเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 32/40 หมู่ที่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จากการตรวจสอบการจดทะเบียนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2546 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีหุ้นส่วน 3 คน คือ (1) นายวิวรรธน์ ชื่นบาน ลงหุ้นด้วยเงินสด จำนวน 1,700,000 บาท (2) น.ส.ดรุณี เซ่งฉิม ลงหุ้นด้วยเงินสด จำนวน 200,000 บาท และ (3) นายจรัส คำแก้ว ลงหุ้นด้วยเงินสด จำนวน 100,000 บาท จากนั้นแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2562 เหลือหุ้นส่วน 2 คน คือ นายวิวรรธน์ และ น.ส.ดรุณี
ทั้งนี้ ในส่วนของนายวิวรรธน์ หรือลูกปอเฉวง นั้น เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2558 เจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโดกองปราบปรามเข้าจู่โจมค้นบ้านของนายวิวรรธน์ ที่หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็น 1 ใน 26 เป้าหมายในปฏิบัติการฟ้าสางที่สมุย เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ อ.เกาะสมุย หลังจากเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายพนัส เค้าอุทัย หรือเสี่ยแท็ก ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในเกาะสมุยเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2558 หลังการค้นบ้านนายวิธวรรธน์ ไม่พบอาวุธและยาเสพติด แต่พบกระสนปืนชนิดซ้อมขนาด .38 มม. จำนวน 2 นัด และกระสุนปืน ขนาด .45 มม.
