พังงา - ทนายดังเข้าแจ้งความถูกแอบอ้างหลอกผู้เสียหายให้โอนเงินซื้อสินค้า และว่าความคดีทางกฎหมาย พร้อมตั้งรางวัลแก่ผู้ให้ข้อมูลจนจับกุมได้
วันนี้ (20 ก.ย.) นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความสำนักงานทนายสรรเพชร หรือทนายเอก เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เอกภพ ภู่ทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อให้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้ที่แอบอ้างชื่อ รูป และ แอปพลิเคชันไลน์ของตนเอง หลังจากไปหลอกลวงซื้อสินค้า และว่าความ โดยมีผู้เสียหายจากหลายแห่ง ทั้งเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า นายสรรเพชร หรือทนายเอก หลอกให้โอนเงินซื้อจักรยานยนต์ แอร์ ทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ และสินค้าเครื่องใช้ต่างๆ โดยอ้างว่า มีอาชีพเป็นทนาย ชื่อทนายเอก หรือทนายสรรเพชร ทำให้ผู้เสียหายเชื่อถือและหลงเชื่อ โอนเงินให้ในชื่อบัญชี นายอภิชาติ กมลเนตร อีกทั้งหลอกผู้เสียหายให้รับจ้างทำของแล้วไม่โอนเงินค่าจ้างให้แก่ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายได้แจ้งต่อกลุ่มสื่อออนไลน์ เป็นผลให้ นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือทั้งอาชีพและความเป็นส่วนตัว
เบื้องต้น นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ได้ทำการสืบทราบว่า บุคคลที่แอบอ้างชื่อตนเองนั้นมีหมายจับของ สภ.เมืองนครปฐม ในคดีฉ้อโกง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างมาก นอกจากนี้ ทนายเอก ได้ตั้งรางวัลนำจับบุคคลดังกล่าวไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำตัวผู้ที่แอบอ้างมาดำเนินคดีทางกฎหมายโดยด่วน
ด้าน นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความสำนักงานทนายสรรเพชร หรือทนายเอก กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากผู้เสียหายและเพื่อนๆ ผู้เสียหายจำนวนมาก หลังจากถูกหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000-15,000 บาท เพื่อซื้อสินค้าที่โพสต์ไว้ในสื่อออนไลน์ หรือเสนอขายสินค้าแก่บุคคลต่างๆผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และเฟซบุ๊ก โดยแอบอ้างชื่อของตนเองเพื่อความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังรับปรึกษาคดีต่างๆ
โดยให้โอนเงินมัดจำเพื่อดำเนินการให้คำปรึกษาทางคดีและเข้าช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ที่ถูกดำเนินคดี หรือผู้ที่มีคดีความ ส่งผลให้ตนเองที่ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใดต้องได้ความเดือดร้อน เสียหายเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อบุคคลดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ส่วนบุคคลใดสงสัยว่าเป็นผู้เสียหายต่อการกระทำดังกล่าวขอให้ร่วมแจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคมในยุคดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์ ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมสังคมออนไลน์ที่มีภัยทางสังคมหนักในปัจจุบันนี้ โดยตนเองตั้งรางวัลแก่ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (20 ก.ย.) นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความสำนักงานทนายสรรเพชร หรือทนายเอก เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เอกภพ ภู่ทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อให้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้ที่แอบอ้างชื่อ รูป และ แอปพลิเคชันไลน์ของตนเอง หลังจากไปหลอกลวงซื้อสินค้า และว่าความ โดยมีผู้เสียหายจากหลายแห่ง ทั้งเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า นายสรรเพชร หรือทนายเอก หลอกให้โอนเงินซื้อจักรยานยนต์ แอร์ ทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ และสินค้าเครื่องใช้ต่างๆ โดยอ้างว่า มีอาชีพเป็นทนาย ชื่อทนายเอก หรือทนายสรรเพชร ทำให้ผู้เสียหายเชื่อถือและหลงเชื่อ โอนเงินให้ในชื่อบัญชี นายอภิชาติ กมลเนตร อีกทั้งหลอกผู้เสียหายให้รับจ้างทำของแล้วไม่โอนเงินค่าจ้างให้แก่ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายได้แจ้งต่อกลุ่มสื่อออนไลน์ เป็นผลให้ นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือทั้งอาชีพและความเป็นส่วนตัว
เบื้องต้น นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ได้ทำการสืบทราบว่า บุคคลที่แอบอ้างชื่อตนเองนั้นมีหมายจับของ สภ.เมืองนครปฐม ในคดีฉ้อโกง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างมาก นอกจากนี้ ทนายเอก ได้ตั้งรางวัลนำจับบุคคลดังกล่าวไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำตัวผู้ที่แอบอ้างมาดำเนินคดีทางกฎหมายโดยด่วน
ด้าน นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความสำนักงานทนายสรรเพชร หรือทนายเอก กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากผู้เสียหายและเพื่อนๆ ผู้เสียหายจำนวนมาก หลังจากถูกหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000-15,000 บาท เพื่อซื้อสินค้าที่โพสต์ไว้ในสื่อออนไลน์ หรือเสนอขายสินค้าแก่บุคคลต่างๆผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และเฟซบุ๊ก โดยแอบอ้างชื่อของตนเองเพื่อความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังรับปรึกษาคดีต่างๆ
โดยให้โอนเงินมัดจำเพื่อดำเนินการให้คำปรึกษาทางคดีและเข้าช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ที่ถูกดำเนินคดี หรือผู้ที่มีคดีความ ส่งผลให้ตนเองที่ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใดต้องได้ความเดือดร้อน เสียหายเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อบุคคลดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ส่วนบุคคลใดสงสัยว่าเป็นผู้เสียหายต่อการกระทำดังกล่าวขอให้ร่วมแจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคมในยุคดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์ ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมสังคมออนไลน์ที่มีภัยทางสังคมหนักในปัจจุบันนี้ โดยตนเองตั้งรางวัลแก่ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
