xs
xsm
sm
md
lg

วิบากกรรมไล่ล่า! สองพี่น้อง “เสนพงศ์” ดอดมอบตัวคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
นครศรีธรรมราช - วิบากกรรมไล่ล่า! “เทพไท-มาโนช” สองพี่น้อง “เสนพงศ์” ดอดมอบตัวคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ ศาลเมตตาให้ประกันตัว ผู้เสียหายฟ้องเองหลังถูกดองชั้นพนักงานสอบสวน และอัยการร่วม 5 ปี คดีไม่คืบ

วันนี้ (20 ก.ย.) คดีที่กำลังถูกจับตามองในแวดวงการเมือง ร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พ้นจากตำแหน่งจากการทุจริตเลือกตั้ง และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ในฐานะจำเลยในคดีอาญาในการทุจริตเลือกตั้ง ได้เข้ามอบตัวต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่ศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญานี้ที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องทั้งคู่ ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 โดยมี นายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เรียบร้อยแล้ว และได้นัดสอบคำให้การจำเลยทั้ง 2 ในวันที่ 23 กันยายน 2562 นี้

แต่มีรายงานว่า ก่อนถึงวันศาลนัด เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ ได้ตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะถึงวันนัดสอบคำให้การ เนื่องจากขั้นตอนทางกฎหมายขณะนี้ทั้งคู่ได้ตกเป็นจำเลยคดีอาญากับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเทคนิคทางกฎหมายจึงชิงเข้ามอบตัว และขอประกันตัวก่อนที่จะถึงวันนัดสอบคำให้การ คือ วันที่ 23 กันยายนนี้ โดยศาลได้เมตตาให้ประกันตัวไปในเวลา 16.30 น. ของวานนี้แล้ว ทำให้รอดจากการถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาไปได้

นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายโจทก์ ระบุว่า ในวันที่ 23 กันยายน 2562 จำเลยทั้งสองมีภาระจะต้องมาศาลเพื่อให้ศาลสอบคำให้การว่าจะสารภาพหรือปฏิเสธ หากปฏิเสธจะเข้าสู่กระบวนการนัดตรวจพยานหลักฐาน กำหนดวันนัดสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์ และจำเลย ในส่วนของโจทก์นั้นได้นำส่งพยานหลักฐานให้แก่ศาลทั้งหมดแล้วในคราวการยื่นฟ้อง

“สำหรับคดีเดียวกันนี้ ที่สำนวนคดียังค้างอยู่ที่อัยการสูงสุด ซึ่งอยู่ในกระบวนการตั้งแต่พนักงานสอบสวนถึงชั้นอัยการร่วม 5 ปี ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง อย่างไรก็ตามก็ไม่มีผลอะไรอีกแล้ว เนื่องจากจากผู้เสียหายคือโจทก์ได้ยื่นฟ้องโดยตรงต่อศาลนครศรีธรรมราช ได้เมตตาประทับรับฟ้องในคดีนี้แล้ว หรือหากอัยการจะมีคำสั่งฟ้องสามารถที่จะมารวมคดีนี้ได้” นายสุวิทย์ ทนายโจทก์ กล่าว

สำหรับมูลเหตุแห่งการฟ้องร้องต่อศาลโดยผู้เสียหายตรงยังศาลนครศรีธรรมราช เนื่องจากคดีนี้ นายมาโนช เสนพงศ์ ได้ต้องคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยศาลอุทธรณ์ภาค 8 ความคดีเลือกตั้งที่หมายเลขดำที่ ลต.6/2556 แดงที่ 1490/2558 ไปแล้ว โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ร้องต่อศาล ทั้งยังคำวินิจฉัยที่ 56/2558 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2558 ให้ดำเนินคดีอาญาต่อ นายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์

หลังจากนั้นปรากฏว่า ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญา ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวน และนำส่งคดีต่ออัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึงชั้นอัยการสูงสุด ใช้เวลายาวนานเกือบ 5 ปี แต่คดียังไม่ถึงชั้นการพิจารณาของศาล นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหาย จึงตัดสินใจฟ้องด้วยตัวเอง ศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีในที่สุด

โดยล่าสุดนั้นพบว่า พี่น้อง “เสนพงศ์” ทั้ง 3 คนที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมือง อาจกล่าวได้ว่าเป็นมรสุมวิบากกรรมที่ต้องเผชิญ พี่ชายคนโต คือ นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช มีประเด็นการพิจารณาในข้อกล่าวหาการทุจริตการปรับปรุงสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช และอื่นๆ อีกหลายประเด็นอยู่ในชั้นการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยังไม่แล้วเสร็จ

ส่วน นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ต้องคดีทุจริตการเลือกตั้งจนศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือที่เรียกว่า “ใบแดง” จนพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. และได้ถูกฟ้องดำเนินคดีอาญานี้ซ้ำ รวมทั้งต้องชำระค่าเสียหายในการเลือกตั้งนายก อบจ.คราวถัดไปอีกประมาณราว 100 ล้านบาท และล่าสุดในคดีเดียวกันนี้ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคดีร่วมกันทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. ตามการฟ้องครั้งนี้ ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยหากรับสารภาพจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาได้ทันที แต่หากปฏิเสธจะต้องมีกระบวนการสู้คดีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
 


กำลังโหลดความคิดเห็น