พัทลุง - โซเชียลแห่แชร์ ครู ร.ร.เขาชัยสน ทั้งตี-เตะ-ถีบนักเนียน เหตุเสียงดังกันลั่นห้อง ตีคนละ 1 ที “น้องเฟรม” เถียงไม่ได้เสียงดัง ครูจัดชุดใหญ่ตีซ้ำ เตะ-ถีบติดฝาห้อง ท้าผู้ปกครองให้แจ้งความ ตร.ปรับ 1,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกาย ยายเตรียมร้องเขตการศึกษาสอบสวนเพิ่ม
จากกรณีที่ชาวเน็ตต่างพากันแชร์และแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมากหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Olives May Srikan ได้โพสต์ภาพและคลิประบุว่า ครูในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ตีลูก และยังถีบหน้าอกพร้อมใช้เท้าเตะอีก 2 ครั้งต่อหน้าผู้ปกครองและญาติที่ไปหาเด็กที่โรงเรียน อีกทั้งยังชี้หน้าด่าเด็กต่อหน้าต่อตา
“ครูยอมรับว่าทำไปเพื่อให้เด็กเป็นคนดี ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกคุณ คุณจะทำยังไง ตอนนี้ผู้ปกครองพาน้องไปตรวจร่างกายและพาไปแจ้งความเป็นที่เรียบร้อย จิตสำนึกของความเป็นครูอยู่ที่ไหนกัน แค่เด็กคุยกันต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ หัวใจคนเป็นพ่อแม่และยายจะเป็นอย่างไร เมื่อส่งลูกหลานไปโรงเรียนแล้วเจอคนแบบคุณ”
วันนี้ (20 ก.ย.) “น้องเฟรม” อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนอนุบาลเขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนที่ถูกครูตี เตะ และถีบ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งตรวจข้อสอบในพื้นห้อง ที่มีเพื่อนนักเรียนชายหญิง 33 คน และเด็กมีเสียงดัง
“ครูเลยเข้ามาตีเพื่อนไป 1 ครั้ง ก่อนที่ตีผม 1 ครั้ง ผมบอกว่าผมยังไม่ส่งเสียงดัง ทำให้ครูตีซ้ำไปอีกครั้งก่อนเตะหน้าอก แล้วใช้เท้าถีบไปติดกับฝาห้องเรียน พร้อมด่าทอว่าเด็กชั่ว ก่อนไล่ให้ไปกินข้าวหมานอกห้อง หลังจากนั้นผมก็ไปบอกคุณครูอีกห้องหนึ่งก่อนที่คุณครูนำตัวไปทายาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด หลังจากนั้น ครูก็ได้ประสานผู้ปกครองให้มารับ”
ด้าน นางสุจิตรา ศรีขวัญ ยายของน้องเฟรม กล่าวว่า หลังจากรับโทรศัพท์จากครูที่โรงเรียนเข้าใจว่าหลานชายพลัดตกหกล้มจนได้รับบาดเจ็บ จึงได้ชวนญาติไปเป็นเพื่อน แต่พอไปถึงพบว่าหลานชายถูกครูชื่อ อำพร รอดเนียม ตีจนมีรอยบวมนูน ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไร เพราะถือว่าเป็นการทำโทษปกติ แต่พอไปถามครูอำพร ที่ตีเด็กกลับถูกต่อว่า และด่าหลายว่าเด็กเลว แทนที่จะขอโทษหรือยอมรับผิด กลับท้าให้ไปแจ้งความหน้าตาเฉย และขณะที่พาหลานไปแจ้งความตอนแรกเข้าใจว่าโดนตีเฉยๆ แต่พอร้อยเวรสอบถามครูยังยอมรับอีกว่าเตะและถีบด้วย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ได้ปรับครูไป 1,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกาย โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า หากจะเอาผิดอีกให้ไปร้องต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเอาเอง
นางสุจิตรา กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำตัวหลานชายไปตรวจที่โรงพยาบาลเขาชัยสน และเตรียมทำหนังสือถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดพัทลุง ตรวจสอบพฤติกรรมครูคนดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นครูอยู่หรือเปล่า และให้ดำเนินการทางวินัยครูคนนี้ด้วย